โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ พบมากในวัยกลางคน และผู้สูงอายุ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมมาก ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม โรคจะดำเนินไปเรื่อยๆ อาจท้าให้มีความเจ็บปวด ข้อเข่าผิดรูป เดินได้ไม่ปกติ การปฏิบัติกิจวัตรประจ้าวันต่างๆ ก็ทำได้ไม่สะดวก จะมีความทุกข์ทรมานทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ข้อเข่าประกอบด้วย กระดูก 3 ชิ้น ได้แก่ กระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง และกระดูกสะบ้า ยึดติดกัน ด้วยเส้นเอ็นซึ่งเป็นส่วนปลายของ กล้ามเนื้อนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ ท้าให้ข้อเข่าแข็งแรง ผิวสัมผัส ของกระดูกทั้งสามจะมีเยื่อบุข้อ เซลล์ประสาทรับความรู้สึก และมี กระดูกอ่อนค่อนข้างหนาคลุมอยู่ กระดูกอ่อนนี้มีลักษณะเรียบ มันวาว และผิวลื่น ทั้งนี้เพื่อรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น ขณะมีการเคลื่อนไหวข้อ และท้าให้รูปร่างกระดูกพอดีกัน ช่วยให้ข้อมั่นคงภายใน ข้อเข่ามีน้ำหล่อเลี้ยงช่วยในการหล่อลื่นและถ่ายน้ำหนัก
ข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ มักพบบ่อยในผู้ที่อายุเกิน 60 ปี พบ มากในผู้หญิงและผู้ที่มีน้้าหนักตัวมาก มักเป็นทั้ง 2 ข้าง พบว่า เมื่อข้อเข่าข้างหนึ่งเริ่มเสื่อมแล้ว จะมีข้อเข่าอีกข้างเสื่อมเวลาต่อมา
อาการในระยะแรก เริ่มปวดเข่าเวลามีการเคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นลงบันได หรือนั่งพับเข่า อาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพักการใช้ข้อ ร่วมกับมีอาการข้อฝืดขัดโดยเฉพาะเมื่อหยุดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เมื่อขยับข้อจะรู้สึกถึงการเสียดสีของกระดูกหรือมีเสียงดังในข้อ
เมื่อมีภาวะข้อเสื่อมรุนแรงอาการปวดจะรุนแรงมากขึ้น บางครั้งปวดเวลากลางคืน อาจคลำส่วนกระดูกงอกได้บริเวณด้านข้างข้อ เมื่อเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเต็มที่ จะมีอาการปวดหรือเสียวบริเวณกระดูกสะบ้า หากมีการอักเสบจะมีข้อบวม ร้อน และตรวจพบน้้าในช่องข้อ
ถ้ามีข้อเสื่อมมานานจะพบว่า เหยียดหรืองอข้อเข่าได้ไม่ค่อยสุด กล้ามเนื้อต้นขาลีบ ข้อเข่าโก่ง หลวม หรือบิดเบี้ยวผิดรูป ทำให้ เดินและใช้ชีวิตประจ้าวันลำบาก และมีอาการปวดเวลาเดินหรือขยับ
Stem Cell หรือเซลล์ต้นกำเนิด เป็น เซลล์ที่ยังไม่เปลี่ยนเเปลงรูปร่างอย่างถาวร มีคุณสมบัติที่จะเเปรเปลี่ยนเป็น เซลล์ได้หลากหลายเเทบทุกชนิดในร่างกายซึ่งรวมไปถึงเปลี่ยนเป็น เซลล์กระดูกอ่อนที่บริเวณเข่าได้ ซึ่งเสต็มเซลล์นั้นมีด้วยกันหลายชนิด โดยชนิดที่มีการวิจัยนำมาใช้ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมอย่างได้ผลคือเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ Osteoarthritis (MSCs)
เซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (MSCs) เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่ทำหน้าที่ทดแทนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ เช่น ทดแทนเซลล์กระดูก, เซลล์กล้ามเนื้อ เป็นต้น หน้าที่ของเซลล์ต้นกำเนิดชนิดนี้ที่สำคัญ คือ
การวิจัยทางคลีนิค ที่ Krembil Research Institute, University Health Network in Toronto, Canada นำคนไข้ 12 คนที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมในระยะปานกลาง มาทำการฉีดเสต็มเซลล์ชนิด mesenchymal stromal cells (MSCs) เข้าข้อเข่า แล้วติดตามผลในระยะเวลา 1
ปี
ซึ่งในการทดลองทางคลินิค พบว่าผลลัพธ์ หลังฉีด stemcell ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมโดยดูจากหลายทาง อาทิเช่น อาการปวด จากผลการทำ MRI ข้อเข่า เเละสารเคมีที่บ่งบอกถึงการอักเสบในเข่าต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดเป็นในทางที่ดีขึ้น
มีการอักเสบลดลง เเละยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนเเรงอื่นๆ
เมื่อสิ้นสุดการทดลอง พบว่าคนไข้นั้นมีอาการเจ็บปวดลดน้อยลง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งทีมผู้วิจัยเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้อาการเจ็บปวดของผู้ป่วยลดลง
เนื่องมาจากการอักเสบของข้อเข่าที่ลดลงหลังจากฉีด Stemcell
หลังจากนั้น ก็มีใจทางคลินิกอีกหลายครั้งในเรื่องของการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมเช่นการวิจัยในปี 2015 ในผู้ป่วย 30 ราย การวิจัยในปี 2016 ในผู้ป่วย
60 ราย ซึ่งผลการวิจัยทางคลินิกเรานี้ก็ให้ผลไปในทางเดียวกัน
"This clinical pilot study advances the field of stem cell research for
patients with arthritis, showing satety and giving insights into potential
therapy efficacy guidelines. We look forward to
larger scale trial results."
- Dr. Anthony Atala, Editor in Chief of STEM CELLS Translational Medicine