ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ NAD+Nicotinamide Adenine Dinucleotide หรือที่เราอาจจะเรียกว่า "น้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์" หรือ "แบตเตอรี่ชีวิต" ถือว่าเป็นหนึ่งในความคิดใหม่ที่สำคัญในศาสตร์ชะลอวัยและการรักษาโรคแบบครบวงจร.
“Fountain of youth molecule” Dr. David Sinclair, Ph.D. Professor in Department Genetics, Harvard Medical School
NAD+ คือสิ่งที่ทำให้เซลล์ในร่างกายของเราสามารถทำงานได้.
สมมติเซลล์ของเราเป็นเหมือนเครื่องยนต์ของรถยนต์, NAD+ จะเป็นเหมือนน้ำมันที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงาน.
ในกรณีนี้, เครื่องยนต์คือการผลิต ATP หรือ "เชื้อเพลิงชีวิต"
ที่ทำให้เซลล์สามารถทำงานได้. NAD+ คือสิ่งที่ช่วยให้เครื่องยนต์ (การผลิต ATP ของไมโตคอนเดรีย)
ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ.
แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นระดับ NAD+ ในร่างกายเราจะลดลง,
เหมือนกับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานาน
ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพื่อให้มันทำงานได้อย่างสมบูรณ์. ดังนั้น, การเสริมสร้าง NAD+
ให้กับร่างกายของเราคือการเติมเชื้อเพลิงให้กับรถยนต์ของเรา
ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์มีชีวิตชีวาและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ.
นอกจากนี้, NAD+ ยังทำหน้าที่ในการซ่อมแซม DNA และการแบ่งเซลล์
ทำให้เซลล์ของเราสามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดเวลา.
จะเหมือนการทำการซ่อมบำรุงรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนน้ำมันเบรก หรือเปลี่ยนยางรถยนต์
เพื่อให้มันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ.
ดังนั้น, NAD+ คือสิ่งที่ทำให้ร่างกายของเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ,
ส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์, และช่วยให้เรามีชีวิตที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมล้นด้วยพลังงาน
NAD+ เป็นโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในทุกเซลล์ของร่างกาย
มีความสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ในระดับเดียวกับดีเอ็นเอ
โดยสามารถพบได้ในเซลล์ที่ช่วยส่งเสริมการงอกใหม่ของเซลล์และเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างพลังงานของเซลล์
นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและโรคที่เกิดมาจากความเสื่อมของร่างกายได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม, NAD+
ไม่ได้มีบทบาทเพียงอย่างเดียวในกระบวนการฟื้นฟูเซลล์และการกำหนดอายุขัย
ยังมีองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อการซ่อมแซมเซลล์และการงอกใหม่ของเซลล์ นั่นคือ Sirtuins
(Silent Information Regulator)
และ Mitochondria
Sirtuins เป็นโปรตีนที่มีความสำคัญในกระบวนการการตายของเซลล์ การอักเสบ
และความต้านทานต่อความเครียดของเซลล์
ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ
Mitochondria เป็นโรงงานภายในของเซลล์ที่ผลิตพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย
ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการทำงานของร่างกายเรา
ดร. เดวิด ซินแคลร์ นักวิทยาศาสตร์ด้านการชะลอวัย ได้ค้นพบว่าเมื่อระดับ NAD+
ลดลง จะทำให้เกิดการเร่งกระบวนการความแก่ในร่างกาย โดยมีผลในการปิดการทำงานของยีน Sirtuins
ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการควบคุมการตายของเซลล์
การอักเสบ และความต้านทานต่อความเครียดของเซลล์ นั่นหมายความว่าการลดระดับ NAD+
อาจเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มระดับ NAD+
ในร่างกายจะเป็นสิ่งที่ช่วยเร่งการเปิดการทำงานของยีน Sirtuins
อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระดับพลังงานในร่างกาย
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการทำงานของร่างกายทั้งหมด
เมื่ออายุขัยของเราเพิ่มขึ้น NAD+ ในร่างกายก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
และเมื่อเรามีอายุประมาณ 50 ปี ระดับ NAD+ จะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของระดับที่เคยมีในวัย 20 ปี
และเมื่อเราถึงอายุ 80 ปี ระดับ NAD+ เหลือเพียง 1-10%
เท่านั้น! การสูญเสีย NAD+ นี้เกิดขึ้นพร้อมกับปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ เช่น
การเสื่อมถอยของระบบประสาทและสมอง การเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกัน ปัญหาเรื่องความจำลดลง
รวมถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ภาวะมีบุตรยาก และการเสื่อมสภาพของผิวพรรณ
ดังนั้นการรักษาและรักษาระดับ NAD+ ในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างชีวิตยีนยาวและสุขภาพที่ดีของร่างกายในระยะยาว
ความเข้าใจเกี่ยวกับ NAD+ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการยืนยันว่าเราสามารถรักษาสุขภาพร่างกายที่ดีได้เมื่อเราเข้าสู่วัยที่เพิ่มขึ้น
NAD+ เป็นโมเลกุลที่มีบทบาทในการรักษาความสมดุลของพลังงานในร่างกายและมีผลต่อการทำงานของโปรตีน
Sirtuins และเอนไซม์ PARP ที่มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางพันธุกรรมและการซ่อมแซม DNA
โดยตามอัตราการลดลงของ NAD+ ในร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อเราเข้าสู่วัยที่เพิ่มขึ้น
การทำงานของโปรตีนเหล่านี้จะถูกทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งหมด รวมถึง:
ระบบประสาท: การลดลงของ NAD+ สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง
ทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์สมอง ลดความสามารถในการคิดและการจำ
และสร้างสภาวะที่เป็นเหตุการณ์สู่โรคสมองเสื่อม
ระบบหัวใจและหลอดเลือด: NAD+ ที่ลดลงสามารถทำให้การทำงานของหัวใจลดลง
ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ
ระบบทางเดินอาหาร: การลดลงของ NAD+ สามารถทำให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารลดลง
และอาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร และส่งผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพร่างกายทั่วไป
ระบบฮอร์โมน: NAD+ มีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญเนื้อเยื่อไขมัน
ทำให้การลดน้ำหนักอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อ NAD+ ลดลง
ร่างกายจะพบปัญหาในการควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปในแบบที่ต้องการ
ดังนั้น การรักษาระดับ NAD+
ที่สมดุลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีในอายุที่เพิ่มขึ้น.
เพิ่มพลังงานของเซลล์: NAD+ เป็นตัวสร้างและขนส่งพลังงาน (ATP)
ให้กับเซลล์ทั่วทั้งร่างกาย ทำให้เซลล์ทำงานได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพ
ปกป้องและซ่อมแซม DNA: NAD+ มีบทบาทในการซ่อมแซม DNA
ทำให้เซลล์ฟื้นฟูและป้องกันการเปลี่ยนแปลง DNA ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรค
ส่งเสริมทำงานของสมอง: NAD+ ช่วยสนับสนุนฟังก์ชันสมอง ได้แก่
การผลิตพลังงานสำหรับเซลล์สมอง และควบคุมการตอบสนองต่อความเครียด
ชะลอการวัย: NAD+
เป็นสารสำคัญที่มีบทบาทในการยับยั้งการทำงานของโปรตีน sirtuins ที่เกี่ยวข้องกับการแก่
ทำให้เราสามารถยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้
ช่วยป้องกันโรค: หลายๆ ศึกษาพบว่า NAD+
ช่วยในการป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อม อาทิ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์
การต่อต้านออกซิเดชัน: NAD+
เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการต่อต้านออกซิเดชัน ช่วยลดความเสียหายจากสารออกซิเดชันในร่างกาย
ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน: NAD+ สามารถช่วยในการส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคและการติดเชื้อได้ดีขึ้น
ส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร: NAD+
ช่วยในการควบคุมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
การควบคุมการหลั่งฮอร์โมนและสารไซโตไคน์: NAD+
มีบทบาทในการควบคุมการหลั่งฮอร์โมนและสารไซโตไคน์
ทำให้ร่างกายทำงานได้มากขึ้นและมีการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
โดยรวมแล้ว NAD+ ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นระดับเซลล์
ระดับเนื้อเยื่อ หรือระดับอวัยวะ เพื่อส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและสมอง.
เพิ่มการเผาผลาญไขมัน: NAD+ เสริมประสิทธิภาพของกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
ทำให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานจากไขมันในร่างกายได้มากขึ้น
ซึ่งส่งผลให้เกิดการลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกินได้
เพิ่มการผลิตพลังงาน: NAD+
มีบทบาทในกระบวนการผลิตพลังงานในเซลล์ของร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
การเพิ่มระดับ NAD+ สามารถช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับสมดุลย์ระบบอินซูลิน: NAD+
เป็นสารที่มีบทบาทในการปรับสมดุลย์ระบบอินซูลินซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การเพิ่มระดับ
NAD+ สามารถช่วยลดการตอบสนองต่ออินซูลินในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความอยากอาหารและการกินมากเกินไป
ลดอัตราการเกิดอนุมูลอิสระ: NAD+
เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการต่อต้านออกซิเดชัน ทำให้มีการลดอัตราการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย
ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดอาการอักเสบและการควบคุมอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดน้ำหนักเกิน
ดังนั้น การเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกายด้วย NAD+ Cell Therapy
สามารถช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
ปรับสมดุลย์ระบบอินซูลินและเพิ่มการผลิตพลังงานให้กับร่างกาย
1 ครั้ง 6,990 บาท
2 ครั้ง 13,000 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 6,500 บาท)
3 ครั้ง 18,900 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 6,300 บาท)
4 ครั้ง 23,900 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 5,975 บาท)
5 ครั้ง 28,900 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 5,780 บาท)
8 ครั้ง 43,900 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 5,487 บาท)
10 ครั้ง 52,900 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 5,290 บาท)
ค่าให้สารน้ำทางหลอดเลือด NAD+ Therapy: ราคานี้ครอบคลุมการให้สารน้ำทางหลอดเลือด NAD+ Therapy
ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยปกติแล้ว การรับสาร NAD+ ทุกๆ 2-4
สัปดาห์ต่อครั้งหรือตามเงื่อนไขเพิ่มเติม
ค่าปรึกษาแพทย์:
ราคานี้ครอบคลุมค่าปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินสภาพร่างกายและการปรับใช้รักษา NAD+ Therapy
รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังรับบริการ
Intro course 5 ขวด เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
Immune 5 ขวด เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
Brain health 10 ขวด เสร็จสิ้นภายใน 4 สัปห์ดา
Anti-Aging 15-20 ขวด เสร็จสิ้นภายใน 6 สัปห์ดา
Top Up IV 2-5 ขวด ต่อเดือน หรือตามที่แพทย์แนะนำ
Anti-Aging ครั้งละ 1 ขวด สัปห์ดาละ 1 ครั้ง จนครบ 4 ครั้ง
Brain health ครั้งละ 2 ขวด สัปห์ดาละ 1 ครั้ง จนครบ 4 ครั้ง
Health booster ครั้งละ 1-2 ขวด 1 ครั้ง/1-2 เดือน
ระยะเวลาการรับบริการ: ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมง
ควรนัดหมายล่วงหน้า: ทำการเตรียมพร้อมสำหรับการให้บริการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ: พักผ่อนให้เพียงพอก่อนรับบริการ,
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวส่งผลให้เจาะเลือดง่ายและวิตามินไหลเวียนไปได้อย่างรวดเร็ว,
และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ: ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์,
งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการ NAD+IV Therapy ควรทราบข้อควรรู้ต่อไปนี้
ข้อห้ามสำหรับการให้สารน้ำทางหลอดเลือด: ห้ามใช้ในสตรีที่มีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร,
ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีภาวะไตล้มเหลว, ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ไต โรคตับและความดันโลหิต
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ:
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาและอาหารเสริมที่กำลังรับประทานอยู่,
ประวัติการมีโรคประจำตัวและประวัติการแพ้อื่นๆ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดสารน้ำทางหลอดเลือด เช่น รู้สึกปวดมวนท้อง,
ไม่สบายตัว, ใจสั่น, ปวดหัว ดังนั้น
ควรระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการเพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่เป็นไปได้
โดยทั่วไปแล้ว
ควรพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับบริการ NAD+ Therapy
รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจในการใช้บริการนี้