Cellular Matrix® เทคโนโลยีการสกัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดคุณภาพสูง (Platelets growth factor) ผสมผสานกับ
non-crosslinked hyaluronic acid (HA) ทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูรอยแผลเป็น หลุมสิว ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน ตึงกระชับ เห็นผลชัดเจนและยาวนานมากกว่าที่เคย
เทคโนโลยีสิทธิบัตรการเตรียมโกร์ท แฟคเตอร์ จากเซลล์ต้นกำเนิดเกล็ดเลือดสกัดแยกจากเลือดครบส่วน (Whole blood) ด้วยเทคโนโลยีในการแยกพลาสมาและเกล็ดเลือดจากเม็ดเลือดแดง เพื่อให้ส่วนส่วนประกอบที่ผ่านการ standardized
ให้ได้มาตรฐานที่มีคุณภาพมีชีวิตและทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยองค์ประกอบที่สำคัญที่สกัดออกมาเช่น
โกร์ท แฟคเตอร์ จากเซลล์ต้นกำเนิดเกล็ดเลือด (Platelets growth factor) หน้าที่ของเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือด คือการรักษาสภาวะสมดุล (hemostasis) จึงได้มีการนำมาใช้ในการผ่าตัดรวมถึงการซ่อมแซมบาดแผลที่เป็นมาเรื้อรัง
รวมถึงใช้ในกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และไม่นานมานี้ได้มีการนำมาใช้ในการรักษาปัญหาด้านผิวหนัง เช่น ใช้ในการรักษาแผลเป็น (scar revision) ฟื้นฟูผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ (skin rejuvenation) การใช้ในการสมานแผล (wound healing) รวมถึงรอยแตกลาย
(striae distensae) (Arshdeep and Kumaran, 2014) ยิ่งไปกว่านั้นยังได้มีการนำมาใช้ในการรักษาภาวะผมบาง ศรีษะล้านจากพันธุกรรม
(androgenetic alopecia) ใช้ร่วมกับการปลูกผมเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการรอด โดย
โกร์ท
แฟคเตอร์ จะถูกปล่อยออกมาจาก α-granules เมื่อเกล็ดเลือดได้รับการกระตุ้น จะหลั่งโกร์ท แฟคเตอร์ที่สำคัญอาทิเช่น FGF, Platelet – derived growth factor (PDGF), Transforming growth factor-β (TGF-β), EGF, VEGF,
Insulin – like growth factor (IGF) ซึ่งเกี่ยวข้องต่อการเคลื่อนที่ของสเต็มเซลล์ การเปลี่ยนแปลงตัวเองของเซลล์ (cell differentiation) การหดตัวของเซลล์ (cell contractility) การเพิ่มจำนวนของเซลล์ (proliferation) ซึ่งล้วนเกี่ยวของกับการหายของแผล
ประสิทธิภาพในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การรักษาสภาวะที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะ “เซลล์ต้นกำเนิด” นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเยื่อบุผิว ของหลอดเลือดฝอย และกล้ามเนื้อเรียบ รวมถึงกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน
อิลาสติน และเนื้อเยื่อ ground substance เพื่อให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์เยื่อบุผิว extracellular matrix ใหม่และการสร้างหลอดเลือดใหม่เพื่อเจริญเข้าไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อตามลำดับ นอกจากนี้บนผิวของเกล็ดเลือดจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างและทำหน้าที่ต่างๆกัน เมื่อเกล็ดเลือดถูกกระตุ้น รวมทั้งยังพบ
signal molecule อาทิเช่น CD9, CD-W17, CD41, CD42a-d, CD51, CD-W60, CD61, CD62P, CD63 ซึ่งมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในขบวนการประสานกันของกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของร่างกาย
โดย Ibrahim และคณะ ได้พูดถึงประสิทธิภาพในการสมานแผลอย่างรวดเร็วของ Platelets growth factor โดยการเข้าไปซ่อมแซมในระดับ ดีเอ็นเอเอ ซึ่งเหตุผลตรงนี้เอง จึงไม่น่าแปลกใจถึงประสิทธิภาพในการสมานแผลและรักษารอยแผลเป็น
การกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจน กระตุ้นการเติบโตและการแบ่งเซลล์ของผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์
พลาสมา (Plasma) ประกอบด้วยสาระสำคัญที่ช่วยให้เซลล์มีชีวิตรอดอาทิเช่น สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมน อิเล็กโทรไลท์ โกร์ท แฟคเตอร์ (เช่น IGF และ HGF) รวมถึงโปรตีนซึ่งโปรตีนในพลาสมาเป็นโมเลกุลที่สำคัญต่อขบวนการแข็งตัวของเลือด
และการเกิดไฟบริน เพื่อช่วยเป็นโครงร่างให้เซลล์สามารถเคลื่อนตัวเพื่อเข้าไปสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่
การใช้ HYALURONIC ACID ร่วมกับการเตรียมเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดเข้มข้นในพลาสม่าเพื่อใช้ในด้านความงามหรือเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูบาดแผลเนื้อเยื่อ ไม่แนะนำให้มีการฉีดร่วมกันโดยตรงในทางปฏิบัติ เนื่องจากเมื่อเกล็ดเลือดต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดจากกรดไฮยารูโรนิคจะส่งผลให้เกล็ดเลือดถูกทำลาย
และลดประสิทธิภาพลงจากการเตรียมในสภาวะที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี hyaluronic acid (HA) ที่มีค่า pH7
ที่เป็นกลางนำมาใช้กับ CELLULAR MATRIX™ เพื่อไม่ให้เซลล์เกล็ดเลือดถูกทำลาย
และเป็นสภาวะที่ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มีชีวิตและอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
เพื่อผลลัพธ์สูงสุดเมื่อนำไปใช้รักษาปัญหาทางด้านผิวพรรณในเชิงคลินิก ฟื้นฟูเซลส์ผิว
และบาดแผลต่างๆ
เมื่อสามารถใช้ Platelets growth factor และ HA ร่วมกันได้ จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพชัดเจนขึ้นและยาวนานยิ่งขึ้นจากการเสริมฤทธิ์ซึ่งกันละกัน (synergy effect) โดย HA จะช่วยสร้างโครงร่างทางชีวภาพเพื่อให้เกล็ดเลือดหลั่ง โกร์ท แฟคเตอร์
ออกมาในปริมาณที่สูงขึ้นมาก โดยเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การเตรียมเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของ HA และคุณสมบัติของ HA ก็ไม่รบกวนการมีชีวิตรอดและการทำหน้าที่ของเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดเข้มข้น
การนำไปใช้ทางคลินิกเพื่อรักษาหลุมสิว
ภาพที่ 1 จากการศึกษาในคนไข้ 30 คน โดยใช้ Cellular Matrix ร่วมกับ Nanofat และเลเซอร์ พบว่าหลุมสิว atrophic scar ดีขึ้น อีกทั้งเซลล์ผิวหนังหนาตัวขึ้น ซึ่งส่งผลที่ดีขึ้นต่อความสัมพันธ์และการเข้าสังคมที่ดีมากยิ่งขึ้น
การนำมาใช้ทางคลินิกเพื่อรักษาฝ้า
จากผลการศึกษาของ Çayırlı และคณะ ในปี 2014 โดยการใช้เทคนิคทาง LPPRP รักษาฝ้าในผู้ป่วยอายุ 27 ปี ที่เป็นฝ้ามาประมาณ 5 ปี โดยได้มีการเจาะเลือดจากคนไข้ 8 มิลลิลิตร โดยใช้ test glass นำมาทำการปั่นแยกที่ความเร็ว 3,500 rpm เป็นเวลา 8 นาที และทำการแยกส่วน LPPRP ซึ่งอยู่บริเวณ buffy coat หลังจากนั้นใช้เข็มเบอร์ 32 G ทำการฉีด ลงสู่ใต้ผิวด้วยวิธีการทางเมโสเธอราปี โดยกำหนดไปที่ผิวหนังชั้น papillary dermis หรือที่ระดับความลึกประมาณ 1.5∼2.0 มิลลิเมตร ใช้ปริมาณ PRP ทั้งหมดประมาณ 1.5 มิลลิลิตร โดยทำการฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันที่ 15 วัน เมื่อจบการศึกษาพบว่า ฝ้า ชนิด epidermal ลดลงประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ได้มีการรักษาอย่างอื่นเพิ่มเติม นอกจากการแนะนำให้ทาครีมกันแดด ดังแสดงในรูปที่ 2 (หลัง)
รูปที่ 2 แสดงผลก่อนและหลังการรักษาฝ้าด้วย LPPRP (Çayırlı et al., 2014)
ส่วนประกอบที่สำคัญของเกล็ดเลือดใน α-granules พบว่ามีสารสำคัญทางชีวภาพกว่า 30 ชนิด รวมถึง platelet-derived growth factor (PDGF), transforming growth factor (TGF)-β1, 2, epidermal growth factor, และ mitogenic growth factors เช่น platelet-derived angiogenesis factor and fibrinogen3 ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่ TGF-β1 เป็นโกร์ท แฟคเตอร์ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้าโดย จากการศึกษาของ Kim และคณะ ซึ่งทำการศึกษาบทบาทของTGF-β1 ต่อการเกิดฝ้า พบว่า TGF-β1 ส่งผลยับยั้งการสร้างเมลานินซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้าแบบ concentration-dependent อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยช่วยชะลอการเกิด extracellular signal-regulated kinase activation ซึ่งผลการรักษาที่ดีขึ้นนอกจากบทบาทของ TGF-β1ยังน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ผิวมีความหนาขึ้นมีความแข็งแรงขึ้น เนื่องจาก PDGF มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างเส้นเลือดใหม่ รวมถึง คอลลาเจนและกรดไฮยารูโลนิก ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ extracellular matrix โดย Hyaluronic acid ได้แสดงให้เห็นว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นและผิวดูมีวอลุ่มมากขึ้นจากความกระจ่างใสที่มากขึ้น ดังนั้นการใช้ Cellular matrix ซึ่งเป็น LPPRP+HA จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในผู้ที่เป็นฝ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินในระดับเซลล์ ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงในระดับเซลล์อีกด้วย ซึ่งเมื่อผิวได้รับการฟื้นฟูให้แข็งแรง ลดโอกาสเกิดการอักเสบ ก็จะลดโอกาสการเกิดฝ้าซ้ำด้วย
การนำมาใช้ในด้านความงามเพื่อให้ผิวยกกระชับดูอ่อนเยาว์ (Cellular Matrix Facelift)
เมื่อผิวเริ่มมีริ้วรอยชัดขึ้น รู้สึกว่าผิวบางลงและผิวพรรณดูโทรม ไม่สดใส Cellular Matrix Facelift เป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างของผิวมีการยุบตัว หย่อนคล้อยและไม่เต่งตึงกระชับ ทำให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งทำให้ผิวโทรม ดังนั้นการใช้ Plasma filler (Cellular matrix + HA) จึงช่วยให้โครงสร้างผิวยกกระชับ ยืดหยุ่นดีขึ้น อีกทั้งช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มและคืนความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า ด้วยเทคโนโลยีสิทธิบัตร โครงร่างของ HA จึงช่วยส่งเสริมให้ Platelets growth factor ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งความเข้มข้นที่สูงแล้วเป็นเซลล์ที่มีชีวิตจึงทำหน้าที่ตรงเข้าซ่อมแซมฟื้นฟูผิวพรรณได้ตรงจุด แบบเซลล์ซ่อมเซลล์กระตุ้นคอลลาเจน อิลาสติน ส่งเสริมการใหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้นจากการสร้างเส้นเลือดใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ทั่วใบหน้า โดยที่บีเอซีจะมีการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อผลลัพธ์ของการซ่อมแซม เติมเต็ม และฟื้นฟูสภาพผิวทั่วใบหน้า
ช่วยให้คุณภาพผิวดีขึ้น ผิวแน่นยิ่งขึ้น
จากการศึกษาในคนไข้ที่ได้รับการฉีดด้วย Plasma filler (Cellular matrix + HA) บริเวณมือและใบหน้า โดยประเมินคุณภาพผิวและความตึงกระชับพบว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ริ้วรอยลดลง ผิวตึงกระชับมากขึ้น คุณภาพผิวดีขึ้น ดังแสดงในรูปที่ 3
รูปที่ 3 แสดงผลก่อนและหลังการฉีด Cellular matrix (LPPRP+HA) ใช้ให้ผิวตึงกระชับ คุณภาพผิวดีขึ้น
การกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวในระดับเซลล์ (CELLULAR REGENERATION)
Cellular matrix (LPPRP+HA) สามารถฉีดลงไปในผิวชั้นหนังแท้ส่วนบน (superficial dermis) และชั้นที่อยู่ลึกลงไป หรือชั้น SMAS (superficial musculoaponeurotic system) โดย HA จะทำหน้าที่เป็นร่างแหทางชีวภาพเพื่อให้เกล็ดเลือดหลั่ง โกร์ท แฟคเตอร์ ออกมาในปริมาณที่สูงขึ้นมากและส่งเสริมการเคลื่อนที่ของเซลล์ในการเข้ามาซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่ในบริเวณที่ได้ฉีดเข้าไป โดยคุณสมบัติของ Cellular matrix จึงช่วยทั้งเพิ่มวอลุ่มและลิฟท์ผิว ช่วยเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวให้อ่อนเยาว์ ตึงกระชับ โดยเฉพาะ HA นอกจากเสริมประสิทธิภาพของโกร์ท แฟคเตอร์ ยังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการช่วยคงความชุ่มชื้น เป็น Game changer ในด้านความงามของผู้ที่ต้องการดูแลผิวในระดับดีเอ็นเอ
รูปที่ 4 แสดงผลก่อนและหลังการฉีด Cellular matrix (LPPRP+HA) ใช้ให้ผิวตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวยกกระชับ ที่กรอบหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีสกัดโกร์ท แฟคเตอร์ จากเซลล์ต้นกำเนิดเกล็ดเลือด (Platelets growth factor) บริสุทธิ์ จึงสามารถซ่อมแซมผิวลึกระดับเซลล์ ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ผิวเนื่องมาจากความเสื่อมโทรมจากอายุที่มากขึ้น จึงเหมาะกับ
จำนวนครั้งที่แนะนำ (CELLULAR MATRIX™ PROCEDURE)
เพื่อผลลัพธ์ในการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวใหม่ในด้านความงาม ควรทำอย่างน้อย 3 ครั้งทุก 1 เดือน หลังจากนั้นควรทำ 3-4 ครั้งต่อปี เพื่อให้เพียงพอต่อปัญหาในแต่ละบุคคล
การใช้ Cellular matrix ในการรักษาภาววะผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้าน
โกร์ท แฟคเตอร์ จากเซลล์ต้นกำเนิดเกล็ดเลือด (Platelets growth factor) บริสุทธิ์ จะช่วยส่งเสริมความสามารถตามธรรมชาติของร่างกานในการซ่อมแซมและช่วยให้เกิดการงอกของเส้นผมใหม่บริเวณต่อมรากผม (hair follicle) โดยโกร์ท แฟคเตอร์ ที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเส้นผมได้แก่ PGDF, VEGF, TGF, fibroblast growth factor (FGF), connective tissue growth factor, EGF, and IGF-1 (Akiyama et al., 1996) โดยจะเข้าไปจับกับ receptor ของ stem cell บริเวณกระเปาะรากผม และเนื้อเยื่อรอบๆและส่งสัญญานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มจำนวนของ anagen phase และกระตุ้นการงอกของเส้นผม นอกจากนี้ IGF-1 ยังส่งผลต่อวงจรของเส้นผมโดยช่วยคงระยะ anagen และยับยั้งการเกิด apoptosis เป็นต้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด การแบ่งตัวของเซลล์ทำให้บริเวณที่ฉีดได้รับการฟื้นฟู มีเส้นเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น เกิดการกระตุ้นให้เซลล์รากผมแข็งแรง ทำให้ผมที่งอกใหม่เส้นหนาขึ้น เซลล์ที่ไม่ทำงานกลับมาทำงาน และงอกเส้นผมใหม่อีกครั้ง สร้างเส้นผมมากขึ้น โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนหลังฉีดไปแล้ว 3-6 เดือน ซึ่งการใช้โกร์ท แฟคเตอร์จากเซลล์ต้นกำเนิดเกล็ดเลือดเป็นวิธีปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูง ในระยะยาวเห็นผลได้จริง ช่วยให้ผมกลับมาหนา อย่างชัดเจน
ข้อจำกัดการทำรักษาด้วย Cellular Matrix
การเตรียมตัวก่อนทำการเตรียมตัวก่อนทำ
ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควบคู่ไปกับการรักษา มีข้อควรปฏิบัติหลังจากทำดังนี้
Cellular Matrix (Platelets growth factor + HA)ได้รับสิทธิบัตรดังนี้
U.S. patent US8945537, U.S. patent US9517255, European patent EP2544697B1 Canadian patent CA2789533C, Chinese patent CN103079577B, Australian patent AU2011225828B, Japanese patent JP6076091, Russian patent RU2614722, Israeli patent IL221133
การใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดเข้มข้นสามารถนำมาใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ควบคู่กับ เลเซอร์, ฟิลเลอร์ รวมถึงการร้อยไหม เนื่องจากเป็นวิธีการที่ปลอดภัย เพราะเป็นการใช้เลือดของคนไข้เอง อย่างไรก็ดีการเลือกสกัดโกร์ท แฟคเตอร์จากเกล็ดเลือดเข้มข้น
ควรเลือกเครื่องมือที่ได้ผ่านมาตรฐาน มีงานวิจัยที่ยืนยันในประสิทธิภาพและความปลอดภัย เนื่องจากวิธีการเตรียมเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่จะทำให้ได้เซลล์ที่ยังคงมีชีวิตและสามารถทำหน้าที่ได้ หากวิธีการไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้สูญเปล่าในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เนื่องจากเซลล์ที่สกัดได้ไม่สามารถทำหน้าที่แก้ปัญหาข้อกังวลได้
ที่บีเอซีคลินิก เราคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก จึงคัดเลือกวิธีการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดในระบบปิดเป็นระบบเดียวในประเทศไทยตอนนี้ที่ผ่าน อ.ย.ไทย และ USFDA และเพื่อให้มั่นใจว่า โกร์ท แฟคเตอร์
(growth factors) ที่ได้จะช่วยให้เกิดการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ แก้ปัญหาข้อกังวลใจในเรื่องผิวพรรณและความงาม หลุมสิว รอยแผล ฝ้า กระ รูขุมขนกว้าง รวมถึงแก้ปัญหาผมร่วง ผมลีบแบนไม่แข็งแรง ได้จริง จึงดูผลการทดลองทางคลินิกเป็นหลัก ซึ่ง Cellular
Matrix ที่ทางคลินิกเลือกใช้มีงานวิจัยทางคลินิกรองรับมากกว่า 200 ฉบับ เป็นวิธีการสกัดระบบปิดที่ได้เซลล์ที่มีคุณภาพสูงที่มีชีวิตและสามารถทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ มีปริมาณพลาสมาที่สกัดได้สูงจึงไม่สูญเสีย โกร์ท แฟคเตอร์ (growth factors)
และไฟบริโนเจน มีปริมาณของเม็ดเลือดขาวชนิด granulocyte ที่ต่ำมาก (LPPRP) ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวที่ปล่อยสารที่จะทำให้เกิดการอักเสบได้ ดังนั้นจึงลดโอกาสบวม อักเสบ เมื่อเทียบกับเครื่องสกัดทั่วไป สามารถแยกเม็ดเลือดแดงออกไปได้กว่า 99.5% ซึ่งถือว่าสูงมาก
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมานั้นทำให้คนไข้พึงได้ประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนและยาวนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ทางเลือกในการรักษาแบบเซลล์ซ่อมเซลล์ที่คุ้มค่า
References
Arshdeep, M.S. Kumaran. Platelet-rich plasma in dermatology: boon or a bane? Indian J Dermatol Venereol Leprol, 80 (2014), pp. 5-14นวัตกรรมเซลล์ซ่อมเซลล์ที่คุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง ผลลัพธ์ยาวนาน รักษาหลุมสิว ฝ้า กระ เติมเต็มฟื้นฟูและคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวในระดับลึก ด้วย Cellular Matrix® ผสาน HA นัดหมายแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและออกแบบการรักษาแบบ Tailored-made