รักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้างอย่างไรให้เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก
ด้วยเลเซอร์นวัตกรรมล่าสุดตอบโจทย์ครอบคลุมหลากหลายปัญหาผิว
โดยเฉพาะปัญหาหลุมสิวที่รักษาเท่าไหร่ก็ดีขึ้นเพียงชั่วคราว หรืออาจได้ของแถมกลับมาเป็นฝ้า ผิวไหม้
ผิวบาง แบบไม่ทันตั้งตัว เรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับหลุมสิว บทความนี้มีคำตอบ
พร้อมเทคนิครักษาหลุมสิว (Acne Scar Revision) ที่สามารถลงลึกแก้ปัญหาได้ทุกชั้นผิว ที่ BAC Clinic
ที่เดียวเท่านั้น
ไม่ว่าเครื่องมือทางการแพทย์ก้าวล้ำไปมากสักเพียงใด
แต่คนไข้หรือผู้ที่มีความประสงค์จะเข้ารับบริการทางด้านความงามนั้น
ต่างก็หาข้อมูลจนมีความรู้พื้นฐานของเครื่องมือทางการแพทย์ หรือเลเซอร์ในการแก้ปัญหาผิวพรรณที่เผชิญอยู่
แต่อย่างไรก็ตามเครื่องเลเซอร์ที่ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกัน
กลับส่งผลต่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะเครื่องมือที่ใช้หลักการให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวชั้นลึก เพื่อเป้าหมายหลักๆ ได้แก่
กระตุ้นคอลลาเจน กระชับรูขุมขน รักษาหลุมสิว ยกกระชับใบหน้า ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่คนไข้
ที่ต้องการแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องเลือกเครื่องมือที่สามารถทำงานแก้ปัญหาได้จริง
รูปที่ 1 Infini Coagulates the Dermis
ความร้อนที่สามารถกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดความพยายามในการสร้างคอลลาเจนใหม่จะอยู่ที่40-45 องศาเซลเซียส และความร้อนที่สูงขึ้นมากกว่า 65 องศาเซลเซียสก็จะทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจน ดังนั้นยิ่งมีการส่งพลังงานไปชั้นใต้ผิวได้มาก ยิ่งส่งผลให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยเท่านั้น แต่ทว่า เครื่องมือที่ส่งพลังงาน RF ได้เพียงในชั้นตื้นๆ (Exilis, Venus Freeze, Viora Reaction, 3Deep RF, eMatrix, eTwo, TriPolar RF, ReFirme, Sublime) ทำให้เกิดความยากในการที่จะส่งพลังงานความร้อนในอุณหภูมิที่ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ถึงชั้นหนังแท้เนื่องจาก การส่งอุณหภูมิที่สูงมากจากผิวชั้นบนอาจทำให้ผิวหนังเกิด burn ได้ ดังนั้นการใช้เครื่องมือเหล่านี้จึงจำเป็นต้องทำควบคู่กับการปล่อยตัวทำความเย็น และนอกจากนี้การอาศัยผิวหนังในการนำความร้อนไปสู่ชั้นที่ลึกลงไปยังส่งผลให้คาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก เนื่องจากสภาพเซลล์ผิวที่แตกต่างกัน ความหนาของคอลลาเจน ส่วนประกอบของไขมันและน้ำภายในเซลล์ผิวที่แตกต่างกันจึงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าพลังงานที่ส่งไปจะถึงในระดับที่ต้องการหรือไม่ หากพลังงานลงลึกมากเกินไปถึงชั้นไขมันอาจทำให้เซลล์ไขมันใต้ผิวตาย หากปล่อยระดับพลังงานสูงในชั้นตื้นๆอาจทำให้เกิดการอักเสบและรอยดำจากการเบิร์นผิวได้
เครื่องมือ MFR (Micro-needle Fractional RF) อาจมีความสามารถในการส่งพลังงานลงไปในชั้นหนังแท้ แต่กลับพบว่า ไม่พบการ COAGULATE ของคออลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งขบวนการนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างและจัดเรียงตัวใหม่ของคออลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเครื่องมือ micro needling ในท้องตลาดที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่แน่นอน อาจได้ ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย ดีขึ้นเพียงชั่วคราวและก็กลับมาเหมือนเดิมหรือไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเลย หน้าบวมแดงมีสะเก็ดต้องพักหน้านานและจำนวนต้องใช้จำนวนครั้งในการรักษา 6 ครั้งขึ้นไปหรืออาจมากกว่านั้น ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวมักมีคุณสมบัติดังนี้
รูปที่ 2 แสดงรูปแบบการปล่อยพลังงานแบบ fractional ซึ่งส่งผลต่อการเกิด thermal injury ของ Infini, monopolar, bipolar RF, ablative laser (CO2)
รูปที่ 3 แสดง Coagulation zone ที่ระดับความลึกได้ 3.5 mm
ซึ่งเทคโนโลยีล่าสุด (INFINI MFR) ใช้เข็มแบบหุ้มฉนวน (Gold Insulation)
ปรับระดับความลึกได้ถึง 3.5 mm และปล่อยพลังงานแบบ Fractional ทำให้เกิด Coagulation zone
ในระดับที่สูงมากในผิวหนังชั้น Dermis แม้ในระดับที่ลึกมากเกิด fractional RF ablation
ที่แท้จริง จึงให้ประสิทธิภาพที่สูงมากในการรักษาหลุมสิวตื้นลึกในระยะเวลาที่รวดเร็ว ลดรอยแดง
กระชับรูขุมขนลดการหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า เผยผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ฉีกกฎเครื่องมือ MFR
รูปแบบเดิมที่ไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยแนะนำจำนวนครั้งในการรักษาที่
3-5 ครั้ง สำหรับปัญหาหลุมสิว และ 1-3 ครั้งสำหรับปัญหารูขุมขนกว้าง
เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นและได้คุณภาพผิวที่ดีอย่างรวดเร็ว สามารถทำควบคู่ Rejuran healer
โดยผลลัพธ์สูงสุดจะอยู่ที่ 4-6 เดือน
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนเป็นไปอย่าสมบูรณ์แล้ว
โดยการทำโปรแกรม Infinity Scar Klear & Rejuvenation 1 ครั้ง ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับ MFR
ทั่วไป (Micro-needle Fractional RF) 3-6 ครั้ง เนื่องจากเทคนิคการยิงใน 3 ระดับความลึก
เป็น Fractional microneedling RF แต่ไม่ได้เกิด fractional RF ablation ที่แท้จริง เนื่องจากแม้พลังงานจะปล่อยผ่านหัวเข็มแต่ก็จะเคลื่อนที่ระหว่างหัวเข็มและ electrode ที่ผิวหนังชั้นบน ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดเดาการปล่อยพลังงานที่แน่ชัดว่าจะสามารถทำให้เกิดความร้อนและเกิด coagulation zone ได้ โดยเฉพาะในชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นที่มีคอลลาเจนที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบและเกี่ยวข้องกับปัญหาหลุมสิวโดยตรง หากพลังงานไม่สามารถส่งมาถึงย่อมส่งผลต่อการรักษา และการเดินทางของพลังงานที่กว้างยังอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือเกิดการกระตุกขึ้นได้ นอกจากนี้ระดับความลึกสูงสุดของหัวเข็ม Fractora เพียง 1.5 mm จึงไม่ตอบโจทย์หลุมสิวที่ลึกและการให้ผลในการยกกระชับผิว แตกต่างจากเทคโลโลยี Infini ซึ่งพัฒนาต่อจาก Fractora ซึ่งนอกจากมีฉนวนหุ้มลดโอกาสเกิดสะเก็ดแผลที่เห็นชัดบนผิวหนังชั้นบนสุด ยังลงลึกถึง 3.5 mm ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวที่ลึกลงไป และยังให้ผลในการยกกระชับผิวไปพร้อมๆกัน
รูปที่ 4 แสดง Fractora electrodes ซึ่งไม่ได้เคลือบฉนวนกันความร้อนและลักษณะพลังงานที่ปล่อยออกมาไม่ใช่ true fractional RF ablation
คุณสมบัติในการยกกระชับผิวลดความหย่อนคล้อยของ INFINI MFR เมื่อเปรียบเทียบกับ ULTHERA
Ulthera มี 3 ระดับความลึกได้แก่ 1.5mm, 3mm และ 4.5mm ซึ่งที่ระดับความลึก 1.5 mm
ก็สามารถลงถึงผิวชั้นหนังแท้ได้แล้ว ซึ่งสำหรับระดับความลึก 4.5 mm หรือชั้น SMAS
ซึ่งเป็นชั้นของไขมันหรือ subcutaneous fat ซึ่งมีคอลลาเจนน้อยมีไขมันเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น Coagulation จากการใช้ Ulthera จึงเกิดขึ้นได้น้อย นอกจากนี้จุดที่ทำให้เกิด coagulation
เมื่อครบการรักษา Ulthera มีประมาน 7500 - 15,000 TPC’s ในขณะที่ Infini มีถึง 50,000 TPC’s
หรือมากกว่านั้น ผลลัพธ์ในการยกกระชับใต้ชั้นผิวจึงดีกว่า
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อครั้งถูกกว่า
กล่าวโดยสรุป การยกกระชับผิวต้องการขบวนการที่สำคัญคือ coagulation injury
(การปล่อยพลังงานให้เกิดการบาดเจ็บรอบๆ จุดที่ปล่อยพลังงาน) ซึ่งต้องเกิดในชั้นหนังแท้เท่านั้น
ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่จะเห็นว่าเครื่องมือที่มีการปล่อยพลังงาน
RF ส่วนใหญ่ จะไม่สามารถทราบทิศทางการปล่อยพลังงานรวมถึงจะสามารถปล่อยพลังงานได้ถึงชั้นหนังแท้
และพลังงานระดับสูงพอจนสามารถเกิด คือ coagulation injury ได้หรือไม่
ซึ่งถ้าไม่เกิดขบวนการดังกล่าวย่อมเป็นเหตุผลของคำตอบว่า ผลการรักษาไม่เป็นที่น่าพอใจ
รักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง คืนผิวเรียบเนียน ด้วยเทคนิค Acne Scar Revision ที่ BAC Clinic เท่านั้น
จองสิทธิ์ได้ทางช่อง ทางไลน์ @bacclinic (คลิก) รับส่วนลดสูงสุดโดยแจ้งภายใน 25 พ.ย. 67
สนใจรับงานผิวระดับพรีเมียม ออกแบบการรักษาแบบ Tailored-made นัดหมายปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าบริการ
Before
After
Before
After
Before
After
Before
After
Before
After
*ผลลัพธ์ขึ้นกับแต่ละบุคคล
ผู้ที่มีหลุมสิวทั้งลึกและตื้น และปัญหารอยแดงจากสิว
หลุมสิวเกิดจากการอักเสบของสิว และการดูแลไม่ถูกวิธี จนทำให้เกิดเป็นปัญหาหลุมสิวตามมา ซึ่งเลเซอร์ที่สามารถรักษารอยแผลเป็นทั้งตื้นและลึกได้นั้น ต้องสามารถส่งพลังงานและทำให้เกิด Coagulation zone ถึงผิวชั้นหนังแท้ จึงจะสามารถรักษารอยแผลเป็นหลุมได้อย่างครอบคลุมรวมถึงรอยแดงและสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งแรกของการรักษาและต่อเนื่องไปจนถึง 4-6 เดือน อย่างไรก็ดีเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนควรรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง
ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง
รูขุมขนกว้างเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบใต้ชั้นผิวจากการเกิดสิว การดูแลไม่ถูกวิธี หรือเกิดจากผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป ซึ่งการรักษาด้วยหลักการของ Advanced Micro needling RF ที่ใช้หัวเข็มความถี่ขนาด 49 pin สามารถปรับระดับเลเยอร์ตามปัญหาแต่ละชั้นผิว และกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บแบบ true ablative (Microneedle ทั่วไปส่งพลังงานได้ไม่ถึงชั้นหนังแท้) จึงนอกจากจะส่งผลให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่จนผิวแน่นขึ้นจากใต้ชั้นผิว ยังช่วยลดการผลิตไขมันสาเหตุหนึ่งของปัญหารูขุมขนกว้างอีกด้วย
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
ปริมาณคอลลาเจน และความยืดหยุ่นตามธรรมชาติของผิวจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ผิวแห้งได้ง่ายขึ้นขึ้น และส่งผลให้เห็นรอยหลุมสิวและรูขุมขนกว้างชัดเจนขึ้นอีกด้วย เนื่องจากความยืดหยุ่นของผิวที่ลดลง รวมถึงไขมันในชั้นใต้ผิวก็ลดลงด้วย ซึ่งสามารถดูแลให้ผิวยกกระชับขึ้นและช่วยให้คอลลาเจนของผิวมีความหนาตัวขึ้น ควรทำการรักษาด้วย INFINI ควบคู่กับ Rejuran healer หรือ Cellular matrix ซึ่งควรได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากการกระตุ้นให้ผิวเกิดการบาดเจ็บและสามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์นั้น ต้องใช้วิธีการรักษาหลายเทคนิคซึ่งถูกเข้ามารวมไว้ในโปรแกรม โดยผู้เข้ารับบริการไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยผลลัพธ์ที่ได้จะมีความต่อเนื่องไปจนถึง 4-6 เดือนจากการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่มีความสดใหม่ หนาตัว และจัดเรียงตัวได้เป็นระเบียบ โดยเริ่มเห็นผลที่ 2 สัปห์ดา ซึ่งแม้ว่าการรักษาหลุมสิวจะไม่ได้เห็นผลในทันที แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้
การใช้คลื่นวิทยุที่ถูกส่งด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก และใช้เทคนิคการยิงแบบ 3 เลเยอร์ จะทำให้ เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนให้มีการสร้างใหม่ ทำให้รอยดำ รอยแดงจากสิวจางลง ผิวหน้ากระจ่างใสเรียบเนียนโดยเฉพาะเมื่อทำคู่กับรีจูรัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน เนื่องจากรีจูรัน มีรายงานวิจัยในการช่วยรักษา Hyperpigment โดยเฉพาะปัญหาฝ้า ลงลึกในระดับเซลล์
การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากชั้นใต้ผิวด้วยเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพและการเติมอาหารผิวด้วยเมโสเธอราปี จะช่วยให้ริ้วรอยดูลดเลือนได้เนื่องจากการกระตุ้น ด้วยMicroneedle ที่ใช้เข็มขนาดเล็กมาก ๆ และมีความถี่ถึง 49 เข็มและนำส่งคลื่นวิทยุ ให้ลงไปสู่ชั้นผิวหนังที่ลึกลงไปให้เกิดการบาดเจ็บอย่างพอเหมาะ และได้ผิวที่แน่นขึ้นจากคอลลาเจนที่มีคุณภาพ
การใช้คลื่นวิทยุที่ถูกส่งด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก และใช้เทคนิคการยิงแบบ 3 เลเยอร์ จะทำให้ เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนให้มีการสร้างใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูเต่งตึง อ่อนเยาว์มากขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง โดยเฉพาะเมื่อทำคู่กับรีจูรัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ซึ่งผู้เข้ารับบริการต่างพึงพอใจในประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของรอยแดงรอยดำจากสิว และ รอยแผลเป็นจากสิว ?
รอยแดงรอยดำจากสิว สามารถหายได้เอง เกิดเพียงชั่วคราว ในขณะที่ รอยแผลเป็นจากสิว ไม่สามารถหายเองได้ และส่งผลต่อเนื่อง โดยรอยด่างดำหลังสิวหายหรือ Post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) ซึ่งสามารถเกิดเป็นรอยดำหรือรอยแดง (Post-inflammatory erythema) สามารถหายได้เองภายใน 4-8 เดือน ในขณะที่รอยแผลเป็นจากสิว หรือแผลเป็นหลุมสิวไม่สามารถหายเองได้ และให้ผลต่อเนื่อง
รอยแผลเป็นหลุมสิวเกิดจากอะไร?
รอยแผลเป็นหลุมสิว มักเป็นผลมาจากสิวชนิดตุ่มนูนแดง (papule) สิวหัวหนอง(Pastule) และ สิวหัวช้าง (cystic acne)เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบรุนแรงจากสิว และเป็นโพรงหนองภายในจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวบริเวณนั้นถูกทำลาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดสิวชนิดที่รุนแรงที่สุดคือ สิวหัวช้าง (cystic acne) ซึ่งเป็นสิวที่อยู่ลึกใต้ผิวหนังอีกทั้งยังมีการอักเสบ โดยสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียลึกลงไปใต้ผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดเป็นกระเปาะของไขมันที่มีการติดเชื้อ มีลักษณะนูนแดง ขนาดใหญ่ เป็นไตแข็งๆ เต็มไปด้วยหนองภายใน โดยเฉพาะหากไปบีบก็จะทำให้เกิดผลที่รุนแรงที่สุดของสิว และเมื่อเกิดบาดแผลจากการอักเสบหรือการบีบสิว จะทำให้เกิดขบวนการสมานแผลตามกลไกธรรมชาติ โดยจะสร้างผังผืดขึ้นมา ซึ่งผังผืดจะดึงผิวให้ยุบตัวลง และเนื่องจากผิวหนังบริเวณนั้นไม่สามารถซ่อมแซมตนเอง โดยการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนให้เหมือนเคยได้ ผิวจึงไม่ได้รับการเติมเต็ม จึงทำให้เกิดผลที่รุนแรงที่สุด คือ “รอยแผลเป็น”
รูปที่ 5 แสดงการเกิดรอยแผลเป็นหลุมสิว
โดยระดับความรุนแรงของรอยแผลเป็นจากสิว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวด้วยเช่นกัน โดยรอยแผลเป็นสิวมีหลายประเภท โดยแผลเป็นชนิดหลุม หรือรอยหลุมสิว (Atrophic scar) แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆได้แก่
รูปที่ 6 แสดงชนิดของหลุมสิว
อัตราค่ารักษาแผลเป็นหลุมสิว
ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของแผลเป็นหลุมสิว เนื่องจากวิธีการรักษา จำนวนครั้ง และเครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน
รักษาหลุมสิว ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท รายละเอียดดังนี้
Microsubcision เทคนิค Blunt Cannula Subcision (Multilayer technique)
- TCA CROSS และ TCA paint (TCA Chemical Reconstruction of Skin Scars) การทำ TCA CROSS เป็นเทคนิคที่ใช้กรด
TCA ความเข้มข้นสูงแต้มหลุมสิว โดยใช้อุปกรณ์ไม้จิ้มฟัน หรือเข็มขนาดเล็ก โดยผลของ TCA
จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เกิดการสร้างผิวใหม่ รวมถึงทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน
แม้หลุมสิวที่ลึก หลุมจิก (Ice pick scars) อัตราค่ารักษาการทำ TCA cross
- ทำคู่Pico เลเซอร์ หรือโปรแกรม Infini MFR เฉพาะจุด 500 บาท ทั่วหน้า 1,200 บาท
- ไม่ได้ทำคู่ Pico เลเซอร์ หรือโปรแกรม Infini MFR เฉพาะจุด 800 บาท ทั่วหน้า 1,990 บาท
การรักษาแผลเป็นหลุมสิว
โดยทั่วไปจะแตกต่างในแต่ละบุคคลตามชนิดและระดับความรุนแรงและเพื่อผลที่น่าประทับใจควรรักษาโดยใช้หลายวิธีควบคู่กันหากบนใบหน้ามีแผลเป็นหลุมสิวมากกว่า 1 ชนิด
ภาพที่ 2 แสดงผลของ TCA CROSS ต่อผิวหนัง
ข้อดีของ TCA CROSS คือ
รูปที่ 7 แสดง Ice pick scars ตอบสนองได้ดีต่อการรักษาด้วย TCA CROSS
การเติมรอยแผลเป็นหลุมสิวด้วย Fillers: อาทิเช่น Juvederm, Restylane, Rejuran S, Rejuran healer, Bubbles DNA
โดยข้อดีของการเติมฟิลเลอร์บริเวณหลุมสิวคือไม่ใช่เป็นการเติมเต็มเพียงชั่วคราว หรือเพียงฉาบผิวเพียงเท่านั้น แต่ผลของฟิลเลอร์ยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากฐานหลุมสิวแต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แตกต่างจากการใช้ Rejuran หรือ Bubbles DNA ( 2% Polyneucleotides ) ซึ่งเป็น PN ตัวท๊อปในการรักษาหลุมสิว จึงช่วยฟื้นฟู พร้อมกับซ่อมแซม และสร้างคอลลาเจนใหม่ไปพร้อมกัน ซึ่งการสร้างคอลลาเจนโดยเซลล์ผิวเองไม่ใช่การใช้สารเติมเต็มเติมเข้าไปชั่วคราวจึงเรียกได้ว่าให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
การใช้รีจูรันควบคู่กับการยิงเลเซอร์ INFINI ดีกว่าการยิงเลเซอร์อย่างเดียวหรือไม่
การใช้รีจูรัน (rejuran) ซึ่งผ่าน อย.ไทย มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวในระดับเซลล์ และสามารถใช้ได้กับทุก Skin type ดังนั้นหากมีการรีจูรันควบคู่กับเลเซอร์ ด้วยคุณสมบัติของรีจูรัน จะส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไวยิ่งขึ้น โดยการใช้ควบคู่กับเลเซอร์จะทำให้เสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน โดยกลไกการทำงานของ INFINI MFR ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิด True ablative หรือทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บในระดับชั้นผิวหนังแท้อย่างแท้จริง (ต่างจาก Microneedling RF ทั่วไป) และกระตุ้นให้เกิดการ healing หรือฟื้นฟูผิวใหม่โดยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้นกระบวนการ healing จึงเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเนื่องการความสามารถในการเยียวยา/สมานแผล ตัวเองจากการบาดเจ็บ (healing ability) ในแต่ละคนมีไม่เท่ากัน การใช้ rejuran healer เข้ามาในการขบวน healing จึงช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย rejuran มีส่วนประกอบเป็น Polyneucleotide บริสุทธิ์ ซึ่งจะทำหน้าที่ฟื้นฟู ซ่อมแซม เซลล์ผิวโดยการกระต้น โกร์ธ แฟกเตอร์ตามธรรมชาติ เพื่อเร่งกระบวนการฟื้นฟูให้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติอีกด้วย ทำให้การตอบสนองต่อการรักษามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ
โปรแกรม Infinity Scar Klear & Skin Rejuvenation รักษาปัญหารูขุมขนกว้างได้หรือไม่
สามารถรักษาได้ เนื่องจากทำให้เกิด Coagulation zone ที่ใต้ชั้นผิวอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลในการสร้างคอลลาเจนใหม่จำนวนมหาศาล แตกต่างจาก MRF ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะสามารถลงได้ทุกชั้นผิว และส่งผ่านพลังงานจนเกิดการบาบเจ็บใต้ชั้นผิวได้จริงส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนใหม่จนผิวตึงละเอียด แน่นกระชับ
รูปที่ 8 แสดงจำนวนรูขุมขนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
จากรูปแสดงให้เห็นว่าหลังรักษาด้วย โปรแกรม Infinity Scar Klear & Rejuvenation จำนวนรูขุมขนลดลงจาก 352 เหลือ 148 pores
ในการรักษาร่องรอยหลุมสิวมีเรื่องบางอย่างที่คุณควรรู้
สิ่งที่สำคัญมากในการรักษาหลุมสิว เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายคือ ไม่มีการรักษาแบบอุดมคติโดยใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งที่สามารถรักษาได้ครอบคลุมหลุมสิวทุกชนิด หมายความว่า ถ้าปัญหาหลุมสิวของคุณ มีทั้ง ice pick scars, boxcar acne scars และ rolling scars คุณจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาที่มากกว่า 1 วิธีในการรักษาหลุมสิวแต่ละชนิดบนใบหน้าได้อย่างครบถ้วน แม่นยำ ที่ BAC Clinic จึงมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย ตรงจุด และเข้ากับ Life Style ของคนไข้แต่ละท่าน
การรักษาหลุมสิวฟื้นฟูสภาพผิว เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องเลเซอร์ในการแก้ไขปัญหา โดยทั่วไปแล้วควรทำการรักษามากกว่า 1 ครั้ง ตามระดับความรุนแรงของปัญหาผิวพรรณ เนื่องจากการเรียงตัวใหม่ของรอยแผลเป็นหลุมสิวจำเป็นต้องใช้เวลา จำนวนครั้งที่มากขึ้นเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้มากเพียงพอกับรอยหลุมสิวที่เป็นอยู่ จนเห็นผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและการใช้เทคนิคที่เฉพาะเจาะจงกับร่องรอยหลุมสิวนั้นๆ ก็จะช่วยให้เห็นผลได้อย่างชัดเจนใน 1 ครั้ง และก็มากระตุ้นเพิ่มจนเพียงพอกับปัญหานั้นๆ
วิธีการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในปี 2024 คืออะไร?
นวัตกรรมในการรักษารอยแผลเป็นหลุมสิวก้าวล้ำไปมาก จากเมื่อกว่า 20 กว่าปีก่อนที่เลเซอร์ยุคแรกๆคือ ablative CO2 lasers จนถึงปัจจุบันที่มีการใช้ Cellular Matrix, EXO Skin และ Biostimulator ในการฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมสิว ข้อดีของนวัตกรรมที่ก้าวกระโดดคือสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้มากยิ่งขึ้นในเวลาอันรวดเร็วจากผิวที่เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าจะบอกว่าวิธีการรักษาหลุมสิวรอยแผลเป็นที่ดีที่สุดในปี 2024 นี้คืออะไร ก็ต้องขอบอกตามข้อเท็จจริงเลยว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชนิดเลเซอร์หรือฟิลเลอร์โดยทั้งหมด แต่เกี่ยวข้องกับการออกแบบการรักษาเป็นรายบุคคล ที่ออกแบบมาแตกต่างตามชนิดหลุมสิวที่เป็นอยู่ ซึ่ง BAC Clinic มุ่งเน้นแต่สิ่งจำเป็นลำดับแรกๆให้กับคนไข้ “The best you can afford” จากหลาย option ให้คนไข้เป็นผู้ร่วมตัดสินใจโดยมีข้อจำกัดน้อยที่สุด
ข้อควรรู้ในการทำเลเซอร์หลุมสิว ชนิด Advanced Microneedling fractional RF
ระยะห่างในการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้างในแต่ละครั้ง?
BAC Clinic ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคลินิกเสริมความงามที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการแนะนำโดย Cleverthai.com