การที่ผิวดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส เรียบเนียนอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่เราต่างก็รู้ดีว่า เราไม่สามารถหยุดเวลาและต้านกระบวนการ aging หรือความแก่ชราตามอายุที่เพิ่มขึ้นได้ ในแต่ละวันเราต้องเจอกับปัจจัยต่างๆที่เร่งขบวนการให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ความเครียดต่างๆ และโดยเฉพาะแสงแดด ที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ถึงแม้ว่าจะเลือกดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง การเลือกทานวิตามิน คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง แต่ก็ดูเหมือนว่า ช่วยไม่ใด้มากเนื่องจาก กระบวนการ aging ส่งผลต่อผิวหนังชั้นลึก
อย่างไรก็ดี การค้นพบ Salmon DNA ซึ่งสามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวในระดับลึก จึงสามารถบรรเทาปัญหาผิวต่างๆที่ต้นเหตุมาจากความเสื่อมโทรมของปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวที่รักษาได้ยากเช่น ปัญหาสิวอักเสบรุนแรง (Cystic acne), รูขุมขนกว้าง และปัญหาเม็ดสีส่วนเกิน (hyperpigmentation) เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจากการค้นพบ จึงทำให้ได้มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ในการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ด้วยแนวคิดใหม่แห่งความงามอันล้ำลึก จากภายในสู่ภายนอก
Salmon DNA หรือ DNA shot เช่น มุลกวัง (bubble DNA) และ Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) คือ Skin rejuvenation booster ที่กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ โดยสารสกัดจาก Polyneucleotide (PN) หรือ Salmon DNA ซึ่งไกล้เคียงดีเอ็นเอมนุษย์มากที่สุด จึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อผิวหนัง โดยงานวิจัยพบว่า PN เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแก้ปัญหาผิวที่เสื่อมโทรม (Aging Skin) ฟื้นฟูบาดแผล (Wound healing) โดยการเข้าไป ฟื้นฟู (Rejuvenation) และซ่อมแซมจากภายในสู่ภายนอก โดยการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบบลาสต์ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่แทนที่เซลล์ที่เกิดการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างกรดไฮยารูโนนิคและคอลลาเจน จึงส่งผลในการช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นและยังช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลในด้าน “regenerative effect” จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และทำให้เกราะป้องกันผิวหน้า (Skin barrier) มีความแข็งแรง หนาตัวขึ้น ในขณะเดียวกันจึงช่วยเพิ่มวอลลุ่ม กระชับรูขุมขน ฟื้นฟูซ่อมแซมหลุมสิวและลดเลือนริ้วรอยช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ดีเอ็นเอเกิดจากโพลินิวคลิโอไทด์สองสายพันกัน โดยโพลินิวคลิโอไทด์
(Polyneucleotide; PN) เป็นฟอร์มของนิวคลิโอไทด์ที่เป็นหน่วยย่อย
ซึ่งนิวคลิโอไทด์ที่สกัดจากปลาแซลมอลเป็นสารชีวโมเลกุลที่ไกล้เคียงดีเอ็นเอมนุษย์จึงมีความปลอดภัย
และไม่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
และยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในระยะยาว โดยโพลินิวคลีโอไทด์ (PN)
จะเข้าจับกับโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "A2 purine receptor"
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนและการเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่ต่างกัน รวมถึงการรักษาบาดแผล
ลดการอักเสบ ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายโดยการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของไฟโบรบลาสต์
ซึ่งผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความกระชับยืดหยุ่น
จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขนอย่างเห็นได้ชัด
โดยการทำงานของโพลีนิวคลีโอไทด์ในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ซึ่งไม่ใช่แค่ส่งผลต่อผิวหนังชั้นลึกเท่านั้นแต่ยังรวมถึงชั้นหนังกำพร้าหรือผิวชั้นบนสุดด้วย
จึงช่วยให้เกราะป้องกันของผิวหนังแข็งแรงขึ้น ส่งผลในด้านการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ความหมองคล้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด
กลไกการทำงานของ Polyneucleotide (PN) เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง
โดยมีงานวิจัยในอาสาสมัครพบว่า การใช้ Polyneucleotide (PN) สามารถเร่งขบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูแผล (healing) ในผู้ป่วยเบาหวาน (Diabetic ulcer) ผู้ที่มีปัญหาเม็ดสี (Pigmentation) ในผู้ที่เป็นแผลเป็น ผิวที่มีการอักเสบ เป็นต้น ซึ่งผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึง แนวคิดใหม่ในการฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ผิวอันทรงประสิทธิภาพจากการใช้ DNA Nucleotide
***ผลลัพธ์แตกต่างในแต่ละบุคคล
จะมีการมาร์คยาชาก่อนโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นจะทำหัตถการโดยแพทย์โดยการฉีด Rejuran เข้าสู้ชั้นใต้ผิวหนัง โดยฉีดครั้งละ 2 cc ทั่วใบหน้า ใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15-30 นาที โดยหลังจากการฉีดอาจมีการบวมบริเวณที่ฉีดเพียงเล็กน้อย ซึ่งทางคลินิกจะมีการฉายแสงสีแดงเพื่อลดอาการบวมประมาณ 15-20 นาทีโดยควรงดล้างหน้าลังทำ 6 ชั่วโมง ซึ่งอาจพบรอยแดง รอยเข็ม ซึ่งจะค่อยๆหายไปเองใน 2-3 วัน
ในการฟื้นฟูเซลล์ผิวหนัง จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปห์ดาเพื่อซ่อมแซมจากภายใน โดยจะค่อยๆเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังการรักษาที่ 4-6 สัปห์ดา และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยแนะนำให้ฉีดที่ 3 ครั้ง ทุก 2-4 สัปห์ดา หลังจากนั้นหากต้องการดูแลอย่างต่อเนื่องสามารถทำทุก 3-6 เดือน เนื่องจากผลการรักษาโดยรีจูรันเป็นแบบ cumulative effect ดังนั้น ยิ่งรักษาต่อเนื่องผลยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น ฉีดสะสมต่อเนื่องผิวยิ่งดี
ถึงแม้ว่าจุดประสงค์การใช้ Skin booster และ Rejuran จะดูค่อนข้างคล้ายกัน แต่ด้วยส่วนผสมหลักจึงทำให้มีการทำงานที่แตกต่างกัน โดย Skin booster ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ hyaluronic acid จึงช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น และวิธีการฉีดจะฉีดในผิวหนังชั้น superficial layer เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยเป็นหลัก ในขณะที่ Rejuran healer ซึ่งมี PN เป็นส่วนประกอบหลัก โดยหน้าที่ของ PN ซึ่งเป็น DNA Nucleotide จึงให้ผลในการต่อต้านกระบวนการชราของผิวหนัง (anti-ageing) ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ไม่ใช่เป็นการเติมเต็มแบบ Dermal filler กล่าวโดยสรุปคือ กลไกในการทำงานของ Skin booster และ Rejuran มีความต่างกัน ซึ่งหากต้องการผลลัพธ์ในด้านการชะละวัย ลดริ้วรอย เติมเต็ม ฟื้นฟูเซลล์ผิว การใช้ร่วมกันก็จะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
✅Biostimulator สำหรับหลุมสิวแบบ Volume depletion? ข้อควรระวัง : ความคาดหวังในผลลัพธ์อย่างสมเหตุสมผลที่เป็นจริง
✅Rejuran เทียบกับ collagen stimulating fillers อื่นอย่างไร?
Collagen stimulating fillers แบบดั้งเดิม ได้แก่ PLLA – Sculptra และ Radiesse หรือ calcium hydroxyapatite สารเหล่านี้ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและมีผลเพิ่มปริมาตรที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปริมาตรบนใบหน้าน้อย เป็นหลุมสิวชนิดสูญเสียปริมาตร จึงไม่เหมาะกับทุกคน ผลที่เกิดขึ้นทันทีหลังcollagen stimulating fillers (biostimulator) เป็นผลจากเจลหรือ carrier กระบวนการกระตุ้นคอลลาเจนจากขบวนการอักเสบจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น และคอลลาเจนที่ได้ แตกต่างในแต่ละบุคคล
✅ดังนั้นวิธีการที่ Cost effectiveness และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่เป็นหลุมสิวแบบสูญเสียปริมาตร และต้องการฤทธิ์ของการกระตุ้นชีวภาพ ได้แก่
Rejuran/PCL + dermal fillers: Rejuran กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ขณะที่ dermal fillers
เพื่อเพิ่มปริมาตรของผิวซึ่งเห็นผลหลังทำทันที
Rejuran/PCL+ MFR+Filler: การผสมผสานนี้เป็นการเสริมฤทธิ์ในการผลิตคอลลาเจน และเพิ่มปริมาตร
ซึ่งเห็นผลหลังทำทันที
✅การรักษาหลุมสิวที่มีปัญหาสูญเสียปริมาตร (volumn) ด้วยการใช้ Rejuran ซึ่งเป็น low level biostimulator ร่วมกับ filler ถือเป็นวิธีที่ cost effective และมีประสิทธิภาพสูงเห็นผลหลังทำทันที มากกว่าการใช้ biostimulator อย่างเดียว เนื่องจาก Rejuran ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งมีประโยชน์ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างโครงสร้างผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ในขณะที่ filler จะช่วยเติมเต็มปริมาตรในพื้นที่ที่สูญเสียไป ทำให้ผิวหน้าดูเต็มและเรียบเนียน
✅การใช้ Rejuran ร่วมกับ filler นี้ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและต้องการการกระตุ้นทางชีวภาพในระดับต่ำ การผสมผสานทั้งสองวิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการฟื้นฟูผิว และยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาวเมื่อเทียบกับการใช้ biostimulator เพียงอย่างเดียว ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ทั้งได้ผลและคุ้มค่า และเห็นผลชัดเจนหลังทำทันที ในขณะที่กระบวนการสร้างคอลลาเจน ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การใช้Salmon DNA มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวในระดับเซลล์ และสามารถใช้ได้กับทุก Skin type ดังนั้นหากมีการใช้Salmon DNAควบคู่กับเลเซอร์ ด้วยคุณสมบัติของSalmon DNA จะส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไวยิ่งขึ้น โดยการใช้ควบคู่กับเลเซอร์จะทำให้เสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ซึ่งทางบีเอซี คลินิก จะมีการแนะนำให้ทำควบคู่กับ Picosecond Laser และ INFINI MFR (Microneedle fractional RF) ซึ่งพบว่าการตอบสนองต่อการรักษามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ โดยนอกจากจะสามารถแก้ปัญหาเม็ดสีส่วนเกินแล้ว ยังช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอและผิวมีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีการเลือกรักษาควบคู่กับเลเซอร์ชนิดใดนั้น ควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อให้สามารถออกแบบการรักษาได้ตรงกับปัญหาและความต้องการส่วนบุคคล
จากงานวิจัยของ Dr S E Change และคณะ พบว่ารีจูรันสามารถลดการสร้างเม็ดสีได้ในระดับเซลล์ เนื่องจากช่วยควบคุมการหลั่งโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับยีนที่ควบคุมการสร้างเม็ดสีให้ลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านอกจากรีจูรัน จะส่งผลในด้านการชะลอวัย การสร้างคอลลาเจน ยังส่งผลในการรักษาเม็ดสีส่วนเกิน เช่นฝ้า ในระดับเซลล์ได้อีกด้วย ดังนั้นการฉีดรีจูรันจึงเป็นทางเลือกที่ประสิทธิภาพสูงในผู้ที่ต้องการงานผิวใส อ่อนเยาว์ ที่แก้ปัญหาลึกถึงระดับเซลล์ โดยเฉพาะเมื่อมีการรักษาควบคู่กับ Picosecond Laser จะทำให้เสริมประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน ในขณะเดียวกันไม่ทำให้ผิวบางหรือเป็นแผลตกสะเก็ดอีกด้วย
รีจูรันช่วยให้ผิวดูลดอายุ และช่วยให้กระจ่างใสฉ่ำวาวโดยการซ่อมแซมเซลล์ผิวระดับลึก
ซึ่งผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก
แต่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้เพียงพอกับปัญหาผิวที่ควรฟื้นฟูในระดับลึก จึงควรรักษาอย่างน้อย
3-4 ครั้ง ทุก 3-4 สัปห์ดา หลังจากนั้นดูแลเพื่อ maintenance ผลลัพธ์ทุก 6-12 เดือน
โดยในระหว่างการรักษาที่ บีเอซี คลินิก จะมีการมาร์คยาชา
เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายมากที่สุด ถึงแม้ในขั้นตอนของการฉีด จะแทบไม่เจ็บเลย
นอกจากนี้ยังมีการฉายแสงสีแดงเพื่อลดอาการบวมและเสริมประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน
ในทุกๆครั้งที่เข้ารับบริการอีกเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่าผิวเริ่มดูเสื่อมโทรม จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
คนไข้ก็สามารถวางแผนเข้ารับการรักษาโดยสามารถนัดหมายกับทางคลินิกได้โดยตรง
ซึ่งในการเลือกคลินิกเข้ารับบริการควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์มีความชำนาญในการวางตัวยา
เพื่อไม่ให้สูญเปล่าในด้านประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ตัวยาที่ใช้ควรสามารถสแกนตรวจสอบว่าเป็นยาแท้โดยมีบาร์โค๊ดให้แสกนตรวจสอบได้และมี
HiddenTag Authenticity Check และควรมีทางเลือกเพิ่มเติมจากเครื่องมือที่มีความหลากหลาย
จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
ทั้งนี้ก่อนเริ่มทำการฉีดต้องพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาก่อนเสมอ
การซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวโดยการฉีดรีจูรันนั้น เกิดขึ้นจากการที่กระตุ้นเซลล์ไฟโบลบลาสต์ ซึ่งเซลล์ไฟโบลบลาสต์ จะส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งคอลลาเจน และ extra cellular matrix ดังนั้นเซลล์ที่มีบทบาทในการทำให้เกิดการบวนการฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ผิวคือเซลล์ไฟโบลบลาสต์ ซึ่งอยู่ในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เป้าหมายของการฉีดรีจูรันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดคือการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ โดยเทคนิคการฉีดของบีเอซี คลินิกคือการฉีดที่ระดับความลึก ในระดับชั้น Superficial Dermis และ Intradermal หรือฉีดลงชั้นหนังแท้ตื้นลึกตามวัตถุประสงค์ของการฉีด โดยในแต่ละจุดใช้ปริมาณประมาณ 0.05-0.1 มิลลิลิตร ด้วยเข็ม 33G×4mm และเน้นไปบริเวณที่มีปัญหาเช่น เม็ดสีส่วนเกิน สิว รูขุมขนกว้าง หลุมสิว หรือบริเวณที่ต้องการเพิ่มวอลุ่มเป็นพิเศษ เช่น ร่องแก้ม คาง เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการฉีดด้วยมือคือ สามารถลงรายละเอียดได้ดีกว่า ได้ปริมาณรีจูรันเต็มหน่วย และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถมั่นใจได้ว่าตัวยาถูกส่งไปยังชั้นผิวหนังเป้าหมายทำให้ได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งข้อแตกต่างจากการใช้ Meso gun คือ การควบคุมการส่งยาด้วยเข็มและแรงดันที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องมือ ทำให้เกิดผลที่ตามมา คือ ตัวยาจะถูกส่งไปที่ชั้น Subcutaneous แทนที่จะถูกส่งไปที่ชั้นหนังแท้ นอกจากนี้ด้วยกลไกของเครื่องมือจะทำให้ยาติดอยู่จากการดูดด้วย Suction ทำให้ได้ตัวยาไม่เต็มโดสและนอกจากนี้คนไข้ยังรู้สึกเจ็บและเป็นรอยได้มากกว่าจากการใช้แรงดันของเครื่องมือ จะเห็นได้ว่า การเลือกใช้เครื่องมือในการฉีดเป็นทางเลือกที่ดีกับการฉีดที่ไม่ต้องการการออกแบบเฉพาะหรือการลงรายละเอียดมากนัก ดังนั้นใน การฉีดรีจูรัน วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ไปยังเซลล์เป้าหมาย และแพทย์สามารถออกแบบการรักษาได้ตรงจุดและละเอียดกว่า ซึ่งก็คือการทำหัตถการด้วยมือ
Salmon DNA มีส่วนประกอบคือ Polyneucleotide (PN) เข้มข้น 2% ซึ่งให้ผลในด้านการฟื้นฟู ซ่อมแซม
แก้ไขเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างเห็นผลช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ เด่นชัดที่สุด
โดย PN หรือ Polyneucleotides ที่สกัดและผ่านขบวนการที่ทำให้บริสุทธิ์ คือ ชิ้นส่วนของ DNA
จากธรรมชาติ ที่เหมือนกับ DNA ของมนุษย์ จึงพบได้กระจายอยู่ทั่วไปในร่างกายของคนเรา
เมื่อถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิวที่มีปริมานคอลลาเจนสูง
ไฟโบบลาสต์ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นจึงสามารถถูกกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนได้โดยทันที
ด้วยกลไกที่ไวที่สุดใช้พลังงานน้อยสุด
การใช้ PN ควบคู่กับ Chanel (ชาแนล) ซึ่งมีส่วนประกอบเป็น Hyarulonic acid (HA)
สูงและส่วนประกอบอื่นๆที่ช่วยเสริมสร้าง สภาวะให้ไฟโบบลาสต์สร้างคอลลาเจน อิลาสติน
ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจากการศึกษาพบว่าช่วยให้การเพิ่มจำนวนของ
Dermal fibroblast สูงขึ้นประมาณ 20% และผิวสมดุลยิ่งขึ้นเรียกได้ว่า ผิวจะได้รับการบำรุงด้วย PN-HA
และส่วนผสมอื่นๆเช่น โคเอนไซม์ วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยดูแลเรื่องความยืดหยุ่น ขาวใส
แก้ปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำแต่งหน้าไม่กริบ
แบบ Hi-end
สูตรนี้จึงเป็นเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลี
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการผิวแบบ glass skin ซึ่งหากคนไข้สนใจ ก็สามารถฉีดรีจูรันและฉีดชาแนลในไทยได้โดยไม่ต้องรอให้บินไปไกลถึงเกาหลี
ก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างเร่งด่วน ได้ผิวฉ่ำวาวแก้ปัญหาผิวแห้งขาดน้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Rejuran เป็น
สารสกัด Polyneucleotide จากแซลมอนที่มีขนาดจำเพาะ นอกจากสามารถฉีดร่วมกับเมโสชาแนล
ยังสามารถใช้รักษาควบคู่กับ เลเซอร์, botox, skin booster,prp,
microneedling RF เพื่อเร่งประสิทธิภาพ ส่วนจะเลือกวิธีการไหน
ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกแบบการรักษา เพื่อให้แก้ได้ตรงปัญหามากที่สุด
อย่างไรก็ดี การใช้เพียง 2% PN ( Rejuran, Bubbles DNA) ก็ถือว่าเพียงพอในการฟื้นฟูผิว
ทั้งในด้าน Anti-Ageing และ Regenerative effect หรือการคืนชีพให้ผิวในระดับ
ดีเอ็นเอได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
Salmon DNA is a skin-healing treatment, as the name suggests. In other words, it contains a skin healing solution with skin care and anti-aging properties. The primary component of Rejuran Healer is PN (Polynucleotide), a bio-composite with deoxyribonucleic acid (DNA) and ribonucleic acid (RNA) biological functions (RNA). This ingredient is completely safe and has no negative side effects. It is an active tissue regeneration material that promotes cell tissue self-renewal and can be used for tissue regeneration as well as wound healing. Furthermore, increasing the thickness and density of the dermis, it promotes essential skin health by controlling oil and moisture balance, shrinking pores, improving sensitive skin, and restoring damaged skin tissue.
Salmon injection, like Rejuran Healer, is a skin regenerating/skin boosting procedure. Because they contain similar ingredients, Rejuran Healer and PDRN accompany each other. The main ingredient of salmon injection, PDRN, is a bio regeneration material similar to PN that aids in rapid skin regeneration by utilizing cell tissues' self-renewal ability. Rejuran Healer's PN is a high molecular substance extracted from the testis of DNA, whereas PDRN is a standardized ingredient in a specific size.
Rejuran Healer is a procedure with no side effects and a safe ingredient used in various major surgeries as a tissue regeneration activating substance with demonstrated stability. As a result, skin that has been damaged due to laser management is treatable, such as thin and sensitive skin and skin with severe seborrheic dermatitis. Skin that is imbalanced and unable to receive laser treatments can be treated. Because the procedure involves injections all over the face, redness, bruising, and temporary swelling may occur for approximately 1 week after the procedure. You may experience dryness for 1-2 weeks following the procedure, which is normal because it is a natural phenomenon in which collagen is activated in the dermis of the skin to balance damaged skin, so please moisturize adequately.
Each Rejuran Healer skinboosters treatment uses 1 syringe (2ml) of Rejuran Healer for a full face treatment. 3-4 treatments spaced 3-4 weeks apart are recommended. A single treatment is then repeated once every 6 - 12 months as maintenance to combat the effects of aging.