Chanel Injection

  หลังจากออกแดดอย่างต่อเนื่องจากวันหยุดยาว หรือสัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานๆ เผชิญกับมลภาวะ นอนดึก ผิวขาดการดูแล ทาครีมก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเห็นผล ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส สัญญาณที่ผิวต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีอีกครั้ง ก็ได้เวลาของการดูแลด้วย Skin booster หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะเลือกฉีดตัวไหนถึงจะเหมาะกับสภาพผิวและปัญหาที่กังวลอยู่โดยเฉพาะหากเจอปัญหาผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วนต้องการให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพผิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าพูดถึงเมโสเธอราปีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเกาหลี ก็คงไม่พูดถึงไม่ได้ สำหรับเมโสชาแนล ซึ่งการฉีดชาแนล (Chanel injection) สามารถฉีดได้แล้วที่เมืองไทย โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี และที่สำคัญ เป็นเมโสที่คนไข้ต่างพึงพอใจเมื่อได้เข้ารับบริการ เนื่องจากประสิทธิภาพสูง มีผลข้างเคียงน้อย และราคาไม่ได้สูงจึงคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้

การฉีดชาแนล (Chanel injection) คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง

เมโสชาแนลมีส่วนประกอบหลักเช่น สารต้านอนุมูลอิสระ, วิตามิน, ไฮยารูรอน, glutathione, coenzymes, amino acids เป็นต้น

ผลที่เกิดขึ้นหลังฉีดชาแนล (Chanel injection)

การฉีดชาแนล จะทำให้ชั้นผิวหนังถูกกระตุ้น ตั้งแต่ผิวหนังชั้นบน (epidermis) ชั้นหนังแท้ส่วนบน (Superficial dermis) จนถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไป (deeper dermal layer) โดยผิวหนังชั้นบนสุดเป็นผิวหนังที่ต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรงจึงถูกกระตุ้นให้เสื่อมโทรมลง ( Aging skin ) ได้ง่าย ดังนั้นการใช้ skin booster จึงช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวที่อ่อนแอ หมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใส เรียบเนียนมีสุขภาพที่ดี

ชั้นหนังแท้ส่วนบน (Superficial dermis) จนถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไป (deeper dermal layer) เมื่อถูก boost ด้วยไฮยารูลอน วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นลงไปในระดับที่ลึกลง จึงช่วยกระตุ้นให้ โกร์ท แฟคเตอร์ ทำงานได้ ดียิ่งขึ้น ในขบวนการเมทาบอลิสมของสเต็มเซลล์ ช่วยปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์จึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ป้องการการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวในขบวนการ Aging

  • ช่วยฟื้นฟูผิวหลังผิวต้องสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน
  • ช่วยย้อนอายุผิว ลดความเสื่อมโทรมของผิว
  • ลดริ้วรอยเล็ก
  • ลดขนาดรูขุมขน ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
  • กระตุ้นคอลลาเจน อิลาสตินช่วยให้เรียบเนียนยกกระชับมากยิ่งขึ้น
  • ลดความแห้งกร้าน เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ
  • ลดปัญหาเม็ดสีที่เกิดจากแสงแดด และจากอายุที่มากขึ้น (Aging skin)

ดังนั้นการฉีดชาแนล จึงเป็นการช่วยเสริมสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้กับผิวที่ต้องการฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิว เนื่องจากการเข้าไปมีบทบาทในเมทาบอลิสมที่สำคัญ เช่นการปรับปรุงสภาวะให้เหมาะสมกับการทำงานของไฟโบรบลาสต์ การกระตุ้นโกร์ท แฟคเตอร์ ช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นเป็นต้น อย่างไรก็ดีการฉีดชาแนลไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่มัปัญหาเม็ดสีส่วนเกินในระดับลึก เช่น ปัญหาฝ้า หรือผู้ที่ต้องการยกระชับผิว ซึ่งควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวและความต้องการซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ในผู้ที่เป็นฝ้า และตอบสนองต่อเลเซอร์ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมีปัญหาฝ้าควบคู่กับปัญหาที่ผิวแห้งมาก และมีผิวบาง พบว่าการฉีด ชาแนลทุก 2 สัปห์ดาควบคู่กับการทำ Picosecond Laser จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้เร็วขึ้น โดยเริ่มเห็นผลชัดในครั้งที่ 2 และดีขึ้นเรื่อยๆ โดยการตอบสนองต่อการรักษามีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล*

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดชาแนล (Chanel Injection)

  เนื่องจากชาแนลมีส่วนผสมของไฮยารูลอน วิตามิน ดังนั้นสารต้านอนุมูลอิสระ กลูต้าไธโอน ฯลฯ จึงช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียให้มีความชุ่มชื้นขึ้น นุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ อย่างไรก็ดี การฉีดชาแนลไม่ใช่วิธีการรักษาโดยตรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาเม็ดสีที่ลึกฝังแน่น เช่น ฝ้า ซึ่งควรรักษาด้วยเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงกับปัญหาเม็ดสี จะตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากกว่า การฉีดชาแนล ควบคู่กับการทำเลเซอร์ย่อมส่งผลที่ดีกว่า เนื่องจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน เนื่องจากเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นส่งผลให้การขจัดเม็ดสีเมลานินออกหลังยิงเลเซอร์ดียิ่งขึ้นและยังเป็นการปลอบประโลมผิว กระตุ้นโกร์ท แฟกเตอร์หลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ที่จำเพาะต่อเม็ดสี โดยเฉพาะเมื่อรักษาควบคู่ Picosecond Laser ซึ่งเป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสี โดยปล่อยพลังงานในระดับ picosecond หรือ หนึ่งต่อล้านล้านวินาทีจึงทำให้เกิดคลื่นกระแทกใต้ผิว (Photomechanical) แทนที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น (Photothermal) เกิดการแตกตัวของเมลานินอย่างละเอียด และขจัดออกอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันการเกิดคลื่นกระแทกใต้ผิว(Photomechanical) และการปล่อยระดับพลังงานได้ถึงระดับชั้นหนังแท้ จึงทำให้มีการนำ Picosecond Laser มาใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อรักษาหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง ด้วยประสิทธิภาพในการขจัดเม็ดสีและกระตุ้นคอลลาเจน โดยมีข้อดีคือ downtime สั้นคือแทบไม่ต้องพักหน้า อีกทั้งเป็นเลเซอร์ระบบใหม่ที่พัฒนาจนเหนือกว่าเลเซอร์ดังเดิมจึงได้รับความนิยมอย่างสูง และเป็นโปรแกรมขายดีของบีเอซี คลินิก ซึ่งหากคนไข้สนใจเข้ารับบริการ ควรนัดหมายล่วงหน้าเพื่อรับคำแนะนำและวางแผนก่อนการรักษาก่อนเสมอ

ข้อควรระวังก่อนการฉีดเมโสชาแนล (Chanel injection)

  สำหรับข้อควรระวังต้องบอกแบบนี้ค่ะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาเพียงอย่างเดียว ว่าถูกหรือแพง เพราะ skin booster ที่ให้ผลดีกับคนหนึ่งอาจจะไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่ง ถึง skin booster นั้นมีจะหลายคนที่มีประสบการณ์เคยฉีด แล้วยืนยันว่าได้ผลดีมีประสิทธิภาพสูงก็ตาม ก็เหมือนกับคุณอาจจะตัดสินใจซื้อครีมที่มีราคาสูง ที่ก็มีแต่คนยืนยันว่าเห็นผลดีมากเช่น คุณได้ซื้อ La Mer มาใช้ ซึ่งก็ดีมากสำหรับคนอื่น แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณหากคุณแพ้ส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์นั้น ต่อให้แพงแค่ไหน ดีแค่ไหน คุณก็ใช้ต่อไม่ได้อยู่ดี เป็นต้น

  การฉีด Skin booster ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมที่ดีเยี่ยมทุกตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมมีความแตกต่างกันตามความรุนแรงของปัญหา และสภาพผิวของแต่ละบุคคล คุณอาจจะคิดว่าแล้วทำไมไม่ลองเพื่อให้รู้ไปเลยว่ามันใช่สำหรับคุณหรือไม่ ซึ่งเราก็ไม่แนะนำให้คุณทำแบบนั้น แต่ขอให้คุณรับคำแนะนำจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ย่อมจะดีกว่า ถึงเราจะไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้แบบ 100% แต่การรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ย่อมจะทำให้สามารถวางแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดตามที่คาดหวังได้

จำนวนครั้งในการทำการรักษา

สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก อย่างไรก็ดีเพื่อผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แนะนำที่ 3 ครั้ง เดือนละ 1 ครั้ง และสามารถ maintain ผลลัพธ์โดยกลับมาฉีดทุก 3-6 ดือน จนครบ 5 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ผิวชุ่มชื้นขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ครั้งที่ 2 ผิวมีความยืดหยุ่นกระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ผิวดูใสเต่งตึงขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนใหม่

ครั้งที่ 3 สีผิวมีความสม่ำเสมอ ดูอ่อนเยาว์จากการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง

ครั้งที่ 4 และ 5 เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานควรฉีดทุก 3 เดือน

*** ผลลัพธ์อาจแตกต่างในแต่ละบุคคล
ข้อควรรู้ก่อนการฉีดเมโสชาแนล
คุณมีผิวที่แห้ง ผิวบาง รวมถึงมีริ้วรอยหรือไม่?

  เมโสชาแนลถูกออกแบบมาเพื่อดูแลให้ผิวมีสุขภาพที่ดี โดยมีส่วนประกอบที่หลากหลายและให้ผลที่แตกต่างกันโดยมีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยให้ผิวหนังชั้นบนหนาขึ้นประมาณ 25% เมื่อฉีดครบ 3 ครั้ง และผลยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอีก 4-6 เดือน ซึ่งสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อเป็นการ maintain ผลลัพธ์ให้ยาวนาน โดยผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดของการฉีดเมโสชาแนลคือ การปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งผิวที่แห้งแสดงถึงผิวที่เสื่อมโทรมอ่อนแอ อาจมีสาเหตุจากการสัมผัสอนุมูลอิสระเป็นระยะเวลานาน แสงแดด ความร้อน อายุที่มากขึ้น การบูทผิวด้วยไฮยารูลอน และสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย จากกลไกของเมโสชาแนล จะช่วยชะล้างสารพิษ ทำความสะอาดผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากความชุ่มชื่นของผิวที่ดีขึ้น และส่งผลต่อให้ผิวรับสารอาหารต่างๆเพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากพบว่าปัญหาผิวของคุณมีสาเหตุมากจากผิวแห้ง อีกทั้งคุณมีริ้วรอย มีผิวบาง การฉีดชาแนลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

ผิวคุณเริ่มเสื่อมโทรม (Aging skin) และเกิดปัญหาเม็ดสี เช่น ตกกระ ได้ง่ายหรือไม่

  เมื่อเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติถูกทำลาย จนเกิดการอักเสบ จะส่งผลใหม่เมลาโนไซด์ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีมากยิ่งขึ้น โดยทฤษฎีที่ใช้อธิบายถึงการเกิด Skin aging คือการอักเสบของผิวอย่างต่อเนื่อง การที่โครงสร้างผิวถูกกระทบกระเทือน และทำให้เซลล์ผิวไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อปราการผิวตามธรรมชาติดีขึ้น ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น การได้รับสารอาหารที่ดี ย่อมจะสามารถบรรเทาการอักเสบ และส่งผลให้เซลล์ผิวแข็งแรง กระจ่างใส สุขภาพผิวดีจนรู้สึกได้

คุณมีผิวมันหรือไม่?

  หากคุณมีปัญหาผิวหน้ามัน จากการผลิตไขมัน (sebum) จากต่อมไขมันที่ผิวหนังมากเกินไป ซึ่งคุณควรสังเกตุว่าปัญหาความมันที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นทั่วใบหน้า หรือเป็นเฉพาะบริเวณ T-Zone ส่วนบริเวณอื่นมีผิวแห้ง เช่นผิวมันเฉพาะ T-Zone แต่หน้าแก้มทั้งสองข้างมีผิวแห้ง คุณก็สามารถฉีดเมโสชาแนลได้ แต่หากความมันเกิดขึ้นทั่วใบหน้าคุณควรพิจารณาทางเลือกอื่นเช่น รีจูรัน (Rejuran)

  หากคุณเป็นคนที่มีสิวอุดตันได้ง่าย เมื่อใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งแสดงว่าคุณเป็นคนที่มีผิวมัน การฉีดชาแนลอาจทำให้ปัญหาสิวเป็นหนักกว่าเดิม เนื่องจากชาแนลมีส่วนผสมที่หลากหลาย การฉีดรีจูรัน (Rejuran healer) จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในผู้ที่เป็นสิวได้ง่าย เนื่องจากกลไกการทำงานของรีจูรันจะช่วยทำให้ผิวมีความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวและช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ซึ่งคนไข้หลายๆคนเมื่อสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดีแล้ว ก็สามารถควบคุมปัญหาสิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ส่วนประกอบหลักของรีจูรันยังช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซม ปลอบประโลมปัญหาหลุมสิวที่เกิดขึ้นได้จากคนไข้ที่มีสิวอักเสบอีกด้วย

คุณมีผิวแพ้ง่ายหรือไม่?

  หากคุณเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย เช่นเวลาคุณจะเปลี่ยนครีมก็พบว่ามีผดผื่นขึ้น คุณอาจจะมี ผิวแห้ง แดงมีผื่นง่าย ซึ่งในกรณี้นี้คุณเหมาะกับ การฉีดรีจูรัน (Rejuran healer) มากกว่า เนื่องจากการที่คุณมีผิวแพ้ง่าย แสดงว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณมีโอกาสตอบสนองต่อสารที่ฉีดเข้าสู่ใบหน้าได้มากกว่าคนทั่วไป และเนื่องจากส่วนประกอบของชาแนลมีความหลากหลาย ไม่เหมือนรีจูรันซึ่งมีส่วนประกอบของ DNA polynucleotides เพียงอย่างเดียว ซึ่งโอกาสในการแพ้จึงพบได้น้อย ดังนั้นหากคุณมีผิวแพ้ง่าย จึงควรพิจารณาทางเลือกอื่นย่อมจะดีกว่า

ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร?

  ผลการรักษาในแต่ละครั้ง อาจให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน เช่นบางครั้งเห็นผลชัดเจนมาก บางครั้งเห็นผลแต่ไม่ชัด ซึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า สภาพผิวมีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างในแต่ละครั้ง ดังนั้นผลที่ได้อาจมีความแตกต่างกัน ถ้าผิวคุณดีอยู่แล้ว คุณก็อาจจะรู้สึกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ในขณะเดียวกันถ้าผิวคุณแห้งโทรม ผลที่คุณได้รับก็จะเป็นที่พึงพอใจตามที่คุณได้คาดหวังไว้

  หลังจากฉีด 3 วัน จะรู้สึกได้ถึงผิวที่นุ่มลื่นขึ้น และเมื่อคุณแต่งหน้าคุณจะเริ่มสงสัยว่าทำไมแค่แต่งบางๆ ก็ดูสวยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนั้นเป็นเพราะผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นและดูสะอาดขึ้น แต่หากว่าคุณเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ชัดเจนนัก ก็ไม่ต้องกังวลใจไป ก็เปรียบเหมือนการยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ ที่ผลจะชัดเจนสุงสุดเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน ดังนั้นถ้าผลไม่ชัดเจนในทันที ขอให้คุณตระหนักว่ากลไกของขบวนการเสื่อมสภาพ หรือ Skin Aging ของผิวหนังของคุณได้รับการดูแลให้ช้าลงแล้วด้วย Anti-aging Skin booster หรือ Chanel injection คุณจะค่อยๆสังเกตุได้ถึงผิวที่ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

***เขียนและเรียบเรียงโดย BAC Clinic ไม่อนุญาติให้ copy ดัดแปลงหรือนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ***

การดูแลตนเองหลังฉีดเมโสชาแนล
  • ควรประคบเย็น
  • ทามอยเจอไรเซอร์เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 3 วัน
  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดแรงๆประมาน 7 วัน
  • งดการขัดผิว งดการใช้ Skin care ที่มีส่วนผสมของ AHA BHA อย่างน้อย 7 วัน
  • งดเลเซอร์ผิว 7 วัน
ฉีดรีจูรัน ( Rejuran healer ) ควบคู่ชาแนล ( Chanel injection ) ดีหรือไม่อย่างไร?
  1. รีจูรันมีประสิทธิภาพในการกำเนิดผิวใหม่ (Regeneration) หรือเป็นการฟื้นฟู ซ่อมแซมในระดับ fundamental หรือระดับเซลล์ ดังนั้นเมื่อฉีดร่วมกับ ชาแนล (version 1 & 2) ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญคือ HA หรือกรดไฮยารูโรนิค จึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นของผิวได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการเสริมประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในระดับรากฐาน และในขณะเดียวกันยังได้ผิวที่ชุ่มชื้นอีกด้วย
  2. โดยมีการศึกษาที่พบว่า PN (Polyneucleotide; Rejuran) และ HA เมื่อใช้ร่วมกันจะเสริมฤทธิ์ (Synergy effect) โดยช่วยเพิ่มจำนวน Dermal fibroblast หรือไฟโบรบลาสต์ในชั้นหนังแท้จากการที่ไฮยารูโรนิคช่วยสร้างสภาวะที่เหมาะสมในการเพิ่มจำนวนของไฟโบรบลาสต์ และช่วยเพิ่มการมีชีวิตของไฟโบรบลาสต์ อีกด้วย ซึ่งไฟโบรบลาสต์เป็นเซลล์ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้กับผิวหนัง เพื่อให้ได้คอลลาเจนคุณภาพที่จัดเรียงตัวได้เป็นระเบียบ
  3. การฉีดคู่กันจึงเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนัง จากการเพิ่มความสามารถในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (Skin regeneration ability) และการเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวได้ดีมากขึ้น
  4. การฉีดร่วมกัน จะช่วยให้การใช้รีจูรันเกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยประสิทธิภาพของรีจูรันจะสูงขึ้นตามขนาดยาที่เพิ่มขึ้น ( Dose - dependent ) จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วจากการฉีด1 ครั้ง
  5. การฉีดร่วมกันเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และคนไข้ที่มีอายุ มากกว่าหรือเท่ากับ 40 ปีขึ้นไป ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย เนื่องจากความสามารถในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ลดลงจากอายุที่มากขึ้นและมีผิวแห้งขาดน้ำ ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น

*ผลลัพธ์แตกต่างในแต่ละบุคคล

***เขียนและเรียบเรียงโดย BAC Clinic ไม่อนุญาติให้ copy ดัดแปลงหรือนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ***

  Are you looking for a safe and effective way to rejuvenate your skin and achieve a youthful, radiant complexion? Look no further than BAC Clinic and our highly sought-after Chanel Injection.

  Chanel Injection is the latest beauty trend in Korea, and for good reason. This powerful treatment contains a unique combination of hyaluronic acid, multivitamins, antioxidants, and peptides, all of which work together to hydrate, nourish, and protect your skin.

  At BAC Clinic, we understand that each individual's skin is unique, which is why we customize our treatments to suit your specific needs. Our team of experienced doctors and aestheticians will work closely with you to develop a personalized treatment plan that will help you achieve the results you desire.

  Many of our clients choose BAC Clinic for their Chanel Injection treatment because of our commitment to using only the highest quality products and the most advanced techniques. We pride ourselves on providing a safe and comfortable environment for our clients, where they can relax and enjoy their treatment experience.

  The benefits of Chanel Injection are numerous. Not only will it hydrate and plump your skin, but it can also help to reduce the appearance of fine lines and wrinkles, improve skin texture, and even out your skin tone. Plus, because it's a non-invasive treatment, there's no downtime, so you can get back to your daily routine right away.

  So why wait? Experience the transformative power of Chanel Injection at BAC Clinic today. Our team is dedicated to helping you achieve your beauty goals and feel confident in your skin. Book your appointment now and discover why so many clients choose BAC Clinic for their skincare needs.

Is it OK to combine Rejuran healer and Chanel injection?
  1. Rejuran has the ability to regenerate fresh skin. (Regeneration) or rejuvenation healing at cellular level. As a result, when combined with Chanel (versions 1 & 2), the main ingredient is HA or hyaluronic acid. As a result, the skin is more hydrated, and the effectiveness of producing new skin cells at the foundation level is improved. It also moisturizes the skin at the same time.
  2. A study discovered that PN (Polyneucleotide; Rejuran) and HA when administered together will maximize (Synergy effect) by increasing the percentage of Dermal fibroblasts or fibroblasts in the dermis layer .Hyaluronic provides the aid for fibroblast proliferation. It also increases the viability of fibroblasts, which are cells that play a crucial part in the production of new collagen for the skin.
  3. The injection is thus appropriate for individuals who desire to boost skin strength by enhancing the ability to generate new skin cells (skin regeneration ability) and improving skin moisture retention.
  4. Combination injection It will aid in the most effective use of Rejuran. Rejuran's efficacy improves with dose (Dose - dependant), making it ideal for those who want immediate results from a single injection.
  5. Combination injection is appropriate for people who require immediate outcomes. as well as elderly patients Individuals over the age of 40 who seek to minimize wrinkles.This is due to aging and dry, dehydrated skin reducing the ability to generate new skin cells.
EXOSOME คืออะไร?

สารสื่อสเต็มเซลล์ในร่างกาย (Cell to Cell communication) มีลักษณะเป็น ถุงขนาดเล็กในระดับนาโนสเกล ที่เรียกว่า Exosome

ซึ่งถุง Exosome เนื่องจากมีหน้าที่ในการสื่อสารระหว่างเซลล์ ดังนั้นถ้าเปรียบเสมือน การพูดคุยผ่านสื่อโซเชียวอย่าง FB messenger นั่นก็หมายความว่า เราสามารถเลือกที่จะสื่อสารกับใคร เปรียบเหมือนการนำส่งสารอาหารที่มีความเจาะจงกับเซลล์เป้าหมาย หรือคนที่เราต้องการจะคุยด้วย

เจ้าถุง Exosome นี้ หรือถุงน้ำขนาดนาโน มีลักษณะแบบ Cup shape มีขนาดประมาน 30-100 นาโนเมตร ซึ่งเล็กว่าฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีขนาดจิ๋วในระดับไมโครเมตร โดยภายใน Exosome  ประกอบด้วยโกร์ทแฟคเตอร์ สารต้านการอักเสบ ไซโตไคม์ Protein messenger, mRNA, microRNAs ซึ่งมีหน้าที่ในการสื่อสารระหว่างเซลล์ แลกเปลี่ยน RNA และโปรตีนสำคัญระหว่างเซลล์ (เช่น fibroblasts, keratinocytes, immune cells) นำส่งสารสำคัญเพื่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การควบคุมความสมดุลและพยาธิสภาพต่างๆของกระบวนการระดับเซลล์ ดังนั้นจากบทบาทในการนำส่งสารที่จำเป็นไปยังเซลล์เป้าหมาย การนำมาใช้ด้านความงาม จึงเป็นทางเลือกขั้นสุด ในการฟื้นฟูเซลล์ผิว เพราะ Exosome ทำหน้าที่เสมือน Avatar มีข้อมูลและนำส่งสารชีวโมเลกุลแบบ stem cell เช่น โกร์ทแฟคเตอร์ ที่สูงกว่า PRP ทั่วไป 1,000 เท่า และนำส่งสาร anti-aging ที่สำคัญอย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ดี การใช้ Stem cell โดยตรง ความเข้มข้นของ Exosome ที่ได้จาก stem cell  มีจำกัด และได้จำนวนที่ไม่แน่นอน

Exosome ทำงานอย่างไร?

แล้วแต่ชุดคำสั่ง โดยตัว exosome จะประกอบด้วย miRNA, Growth factor, Cytokine และโปรตีนต่างๆมากมายเลยซึ่งก็คือชุดคำสั่งที่ Stem cell ผลิตออกมา สั่งการให้เซลล์ต่างๆทำหน้าที่ในการแบ่งตัว ผลิตคอลลาเจน ต้านการอักเสบ ฮีลลิ่งบาดแผล และอีกมากมายเลยค่ะ

Exosome ต่างจากสกินแคร์ทั่วไปอย่างไร?
📍EXO Skin cell booster

นวัตกรรมเซลล์ซ่อมเซลล์ ปรากฏการณ์ใหม่ด้านความงาม สะเทือนวงการ Anti-aging งานผิวดีแห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยีในการสกัด microRNAs Exosome จาก stem cell  เพื่อให้ Exosome บริสุทธิ์บรรจุสาร Anti-aging กว่า 5 พันล้านเซลล์ ตรงเข้าแก้ปัญหายังเซลล์เป้าหมาย และยังอุดมด้วยสาร Macromolecule ซึ่งเป็น cocktail สูตรเฉพาะของคลินิกไม่ว่าจะเป็น growth factor complexes, peptides, amino acids, coenzymes, hyaluronic acid เป็นต้น จึงช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพต่างๆ ทั่วทั้งใบหน้า รวมถึงระบบรากผมและหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี

🙋🏻‍♀️ Key หลักการออกฤทธิ์ (Exoskincell program)
🙋🏻‍♀️Key หลักของ (Exoskincell program)
📍โปรแกรมนี้เหมาะกับคุณถ้า...
📍โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับคุณถ้า
📍ทำไมต้อง EXO Skincell booster ที่บีเอซีคลินิก?

🧬ที่สุดแห่งความบริสุทธิ์ : มีความเข้มข้นสูงจึงนำมาใช้ในการสมานแผล, รักษาแผลเป็น, หลุมสิว โดยช่วยในขบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และลดการเกิดแผลเป็นได้ เต็มประสิทธิภาพ แม้ในผิวที่อักเสบแพ้ง่าย
🧬ที่สุดแห่งความอ่อนเยาว์ : ช่วยเพิ่มคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นจากอิลาสตินที่มากขึ้น 3 เท่า คอลลาเจน 6 เท่า จึงช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ให้ผิวแน่นเต่งตึง ละเอียด น่าสัมผัส
🧬ที่สุดแห่งอาหารผิว : อุดมด้วยสารอาหาร miRNA ( micro RNA) และ macromolecule cocktail มีข้อดีที่เด่นชัด คือขึ้นชื่อเรื่องผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน

นอกจากนี้ยัง

👉ช่วยลดการอักเสบ การแพ้ ช่วยให้ผิวแข็งแรง จากคุณประโยชน์ด้านต่างๆ จากการดูแลครอบคลุมในระดับเซลล์
👉เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ดูฉ่ำ ดูเงา เนียนนุ่ม อิ่มฟู เพื่อความกริ๊บของผิวตอนแต่งหน้า
👉ลดเลือนเม็ดสี รอยแดง จุดด่างดำ ในระดับเซลล์

จำนวนครั้งที่แนะนำ

ควรทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง ทุก 2 สัปห์ดา และเดือนละครั้งอีก 2 ครั้ง จนครบ 5 ครั้ง (ถ้าเป็นไปได้ควรทำ 5 ครั้ง) โดยควร maintanance ทุก 6-12 เดือน โดยยิ่งรักษาต่อเนื่องผลยิ่งชัดเจน โดยเมื่อครบ 5 ครั้ง จะส่งผลในการสร้าง ซ่อมแซม ฟื้นฟู เซลล์ผิวในทุกชั้น ผลลัพธ์แตกต่างในแต่ละบุคคล โดยทั่วไป เห็นผลหลังฉีด 2-3 วัน โดยเฉพาะผลลัพธ์ด้านผิวที่ชุ่มชื้นรอยแดงลดลง
ผลลัพธ์ยาวนาน 6-24 เดือน ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

เทคนิคการฉีดที่บีเอซี
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรมีการเปิดผิว ทางคลินิกจึงมีแถม MTS microneedling เพื่อนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวได้สูงสุด ไม่ใช่เพียงแค่ฉีดแบบเมโสเธอราปีทั่วไป ด้วยเทคนิคเฉพาะของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่องานผิวเนียนกริ๊บของผู้เข้ารับบริการ

การดูแลหลังรักษา
***ผลลัพธ์แตกต่างตามสภาพผิวในแต่ละบุคคล
บริการอื่นๆที่น่าสนใจ

BAC Clinic ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคลินิกเสริมความงามที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการแนะนำโดย Cleverthai.com

ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย เสื่อมโทรม ด้วย Anti-Aging Skin Booster เพื่อผิวสุขภาพดี แต่งหน้าเนียนกริบ ดูอ่อนเยาว์ นัดหมายรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อผลลัพธ์ที่คุณต้องการ


Review: Click Me