ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ
ไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วยเพียงการเลือกรับประทานอาหาร และการ ออกกำลังกาย
ดังนั้นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในด้านความงามจึงเป็นที่นิยม โดยเฉพาะเครื่องมือที่มี
ประสิทธิภาพ และไม่มีบาดแผล
ไม่ต้องพักฟื้นได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ อาทิเช่นการใช้
Monopolar RF และ Intense focused ultrasound (IFUS) ในการยกกระชับผิว
ช่วยให้ผิวเต่งตึงลดความหย่อนคล้อย
และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม
การใช้ IFUS
หรือพลังงานจากคลื่นอัลตราซาวด์ซึ่งมีเนื้อเยื่อเป้าหมายที่ชั้น SMAS
โดยทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 65°C
ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการในการกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน
และทำให้เกิดการสร้างใหม่ของคอลลาเจนและอิลาสติน
ทำให้ผิวยกกระชับและช่วยให้ผิวแน่นลดความหย่อนคล้อยโดยผิวด้านบนไม่ร้อนหรือเบิร์นไหม้
เครื่องมือที่เป็นที่รู้จักกันอาทิเช่น high-intensity focused ultrasound (HIFU) ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้หลักการของ Macro focused ultrasound และ Micro
focused ultrasound with visualization (MFU-V) เช่น Ultherapy® ซึ่งใช้หลักการทำงานแบบ Micro
focused ultrasound ส่งผลให้เห็นผลได้ชัดเจนกว่า
Macro focused ultrasound
มีให้บริการที่แรกในประเทศไทยด้วยเทคนิคพิเศษของบีเอซี คลินิก Liftherapy คือโปรแกรมสำหรับการยกกระชับฟื้นฟูและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวบนใบหน้าให้กลับมามีสภาพผิวที่ดียิ่งขึ้น โดยมีการทำงานลงลึกถึงผิวชั้น SMAS หรือชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน เน้นยกกระชับผิว ยกกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น สามารถยกกระชับผิวบริเวณเล็กๆบนใบหน้า เช่น รอบดวงตา หางตา ยกคิ้วให้เรียงสวย ร่องแก้ม ร่องปาก ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ซึ่งเราต่างก็รู้ดีว่า เราไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ แต่ว่าเราสามารถสร้างผิวหนังชั้น SMAS ที่ดีกว่าเดิมเพื่อทำให้มีการเกิดใหม่ของคอลลาเจน แต่อย่างไรก็ตามการดูแลตนเองโดยหลีกเลี่ยงแสงแดดก็เป็นเรื่องที่จำเป็น
ชั้น SMAS เป็นชั้นที่อยู่ลึกลงไปจากผิวหนังประมาณ 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบให้ผิวหน้าของเราเป็นเหมือนบ้าน ผิวชั้น SMAS เป็นพื้นที่รองรับบ้านอยู่ ในขณะที่ชั้น epidermis ผิวหนังชั้นบนสุดเป็นผนังส่วนนอกของบ้าน ถ้าหากว่าบ้านเกิดยุบตัว (เกิดริ้วรอย) การแก้ไขโดยการซ่อมแซมผนังบ้านหรือการยกกระชับผิวหนังชั้น epidermis ยังไม่เพียงพอ แต่ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือพื้นหรือรากฐานของบ้าน เพื่อให้บ้านกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง นั่นหมายความว่าหากต้องการให้ผิวหน้ากลับมาแน่นกระชับอย่างแท้จริง ต้องแก้ไขที่ชั้น SMAS
หากคุณเคยทำไฮฟู่แบบเดิมแล้วไม่เห็นผล?
คุณกำลังกังวลว่าจะต้องเจ็บตัวในระหว่างทำ
หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน
คุณยังอยากได้ผลลัพธ์ด้านผิวไสเด้ง คิ้วยกสวย ลดร่องแก้ม Liftherapy คือคำตอบค่ะ
เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษาทันที อาทิเช่น รู้สึกว่าผิวแน่นขึ้นแต่ในขณะเดียวกันมีความเป็นธรรมชาติ ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวตึงกระชับ คิ้วยกขึ้น แก้มและคางเรียวเล็กลง ใต้คางยกตึงแน่นขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ จางลง ผิวดูอิ่มฟู รูขุมขนเล็กลงจากการสร้างใหม่ของคอลลาเจน ผิวสวยได้รูป ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจะเห็นผลการรักษาชัดเจนประมาณสัปห์ดาที่ 6-8 โดย กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการรักษาจนถึง 6 เดือนและผลที่ได้อยู่ต่อเนื่องยาวนานถึง 1 ปี
สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีข้อจำกัด
หรือจำเป็นต้องรับทรีทเม้นท์อื่นเพิ่มเติม
แต่อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
และควรบำรุงด้วยมอยเจอไรเซอร์และทาครีมกันแดด รวมถึงควรดื่มน้ำเยอะๆและควรหลีกเลี่ยงแสงแดด
รวมถึง การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
สามารถทาครีมบำรุงที่ใช้ได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างน้อย 24
ชั่วโมง ในคนไข้บางรายอาจพบรอยแดงหลังการรักษาซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้
และหายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือบางรายอาจถึง 1-2 วัน
ในกรณีที่มีอาการข้างเคียงยาวนานควรติดต่อแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
เครื่องมือที่ใช้คลื่นความถี่ชนิดเดียวกันคือ “Intensity Focus Ultrasound” (IFUS) แต่ HIFU ทั่วไปมี Focused dots ของพลังงานแบบ Macro focused ultrasound ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับน้อยกว่า Liftherapy - TDT ซึ่งส่งพลังงาน Micro Focused ultrasound (MFU) พลังงานแบบ Ulthera (MFU-V) แต่ผลที่ได้ไม่ยาวนานเท่า Ulthera แต่อย่างไรก็ตาม Liftherapy เจ็บน้อยกว่า และมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่า นอกจากนี้ Pen Applicator ของ Liftherapy ปล่อยพลังงานแบบ single shots จึงโฟกัสชั้นผิวได้ลึกและแม่นยำกว่าHIFU ทั่วไป อีกทั้งเอกสิทธิ์เฉพาะของ TDT (Thermal Diffusion Technology) พลังงานลึกและกระจายตัวได้ดีกว่า จึงเน้นในเรื่องของการฟื้นฟูและกระตุ้นคอลลาเจนใตช้้นผิวให้สภาพผิวกลับมาดียิ่งขึ้นและได้ผิวที่อิ่มเด้ง โดยมีการศึกษาในอาสาสมัครพบว่าทา ให้ผิวมีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นอีกทั้งยังกระตุ้นไฮยารูโลนิกใต้ชั้นผิวพร้อมกับยกกระชับผิวหน้าไปพร้อมๆกัน แม้ในบริเวณที่เข้าถึงยาก เนื่องจากใช้หัวแบบปากกา ซึ่งมีขนาดเล็กมาก จึงสามารถยกกระชับรอบดวงตา หางตา ยกคิ้วร่องแก้มร่องปากเป็นต้น ดังน้ันจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์พร้อมยก กระชับผิวควบคู่กัน
• สร้างคอลลาเจนใหม่ (Builds New
Collagen)
การทำงานของ Liftherapy จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่
(neocollagenesis) โดยการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ไปยังชั้นผิวหนัง รวมถึงชั้น SMAS
ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยผิวด้านบนไม่ร้อนหรือไหม้
• การรักษาด้วย
Liftherapy แตกต่างจากเลเซอร์อย่างไร ?
Liftherapyใช้พลังงานเสียงซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะในการที่สามารถทะลุผ่านผิวหนังชั้นบนเพื่อไปกระตุ้นถึงผิวหนังชั้นลึกเพื่อให้เกิดการสร้างใหม่ของคอลลาเจน
ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือทางการแพทย์ชนิดอื่นๆ
โดยผลที่ได้จากการศึกษาทางคลินิกคือการยกกระชับขึ้นของผิวหลังเข้ารับการรักษาภายใน 2-3
เดือนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในขณะที่เลเซอร์เป็นพลังงานแสงซึ่งไม่สามารถลงลึกเท่ากับ พลังงานเสียง
ภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม
ดังนั้นการรักษษด้วยเลเซอร์จะส่งผลเฉพาะผิวหนังชั้นบน จะเห็นว่าพลังงานเสียงจาก Liftherapy
และพลังงานแสงจากเลเซอร์ส่งผลต่อชั้นผิวหนังแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม
ก็ยังเป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้ร่วมกันได้เป็นอย่างดี
• ไม่มีสารอันตราย ไม่ต้องใช้เข็ม (No Toxins or
Needles)
แตกต่างจากการใช้เลเซอร์, RF, การผ่าตัด รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เพราะ
Non-surgical HIFU ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดยกดึงหน้า
แต่เป็นการใช้พลังงานที่เจาะจงจากคลื่นอัลตราซาวด์ในการเย็บยกตึงถึงชั้น SMAS
ในระดับความลึกและอุณหภูมิที่แม่นยำ
โดยเป็นเทคโนโลยีกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองตามขบวนการตามธรรมชาติของผิวหนัง
โดยการสร้างใหม่ของคอลลาเจนสดใหม่ใต้ผิวหนังอย่างรวดเร็ว
• ยกกระชับดึงหน้าอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด
ไม่ต้องพักฟื้น (Non-invasive, Non-surgical, completely
safe)
เนื่องจากเป็นการรักษาถึงระดับชั้นลึกกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ในทันที
ส่งผลให้ดูเป็นธรรมชาติและะส่งผลต่อเนื่องยาวนานถึง
6-12 เดือน
• ค่าใช้จ่ายในการรักษา
มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
ดังนั้นควรรับคำแนะนำก่อนทำ
• เป็นการรักษาที่ปลอดภัยหรือไม่
การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์
เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีการใช้แพร่หลายทั่วโลก ซึ่งคลื่นอัลตราซาวด์หรือคลื่นเสียงมีการใช้ทางการแพทย์มากว่า
50 ปี แล้ว ซึ่งช่วยยืนยันได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย
• ความรู้สึกระหว่างการรักษา
เมื่อพลังงานอัลตราซาวด์ถูกส่งผ่านด้วย applicator
ที่โฟกัสเฉพาะจุด จะรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ถูกส่งลงไปในความลึกที่จำเพาะ
ซึ่งสัญญานดังกล่าวได้บ่งบอกถึงการเริ่มสร้างคอลลาเจนใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
• จำนวนครั้งของการรักษา
เพียง 1 ครั้งก็เพียงพอต่อการรักษา
แต่อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยอื่นด้วยอาทิเช่น ระดับความหย่อนคล้อยของผิวหน้า
รวมถึงการตอบสนองต่อคลื่นอัลตราซาวด์และการสร้างคอลลาเจนใหม่ของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน
ดังนั้นในบางรายการเข้ารับการรักษามากกว่า 1 ครั้ง จะได้ผลดีกว่า
เนื่องจากกระบวนการแห่งความชราของเซลล์ผิวดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
ดังนั้นการเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยชะลอ หรือย่นระยะกระบวนการชรา
จะช่วยให้ได้ผิวอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง
โดยทั่วไปแนะนำทุก 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง เนื่องจากเป็นวิธีการที่ปลอดภัย
ผู้เข้ารับบริการเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษาทันที และเพื่อเป็นการฟื้นฟูยกกระชับผิวอย่างต่อเนื่อง
• จะเริ่มเห็นผลลัพธ์เมื่อไร
หลังทำทันทีจะเห็นผลลัพธ์ประมาน 30%
ผลการรักษาสูงสุดจะอยู่ที่ประมาน 1-2 เดือน
• หลังทำมีบาดแผลหรือไม่
เนื่องจากเป็นการใช้คลื่นเสียงในการรักษาแบบ non-invasive
technique จึงไม่มีแผล และปลอดภัย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่งหน้าได้ตามปกติ
โดยไม่ทิ้งร่องรอยในการเข้ารับทรีทเม้นท์
• สามารถทำควบคู่กับการเมโสแฟต และฉีดโบท๊อกซ์ได้หรือไม่
สามารถทำควบคู่กันได้
ทั้งนี้ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
• ระหว่างการทำทรีทเม้นท์รู้สึกเจ็บไหม
Liftherapy เป็นเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง
ปล่อยพลังงานแบบ radiation อย่างรวดเร็วถึง 10 Hz และมีความสถียรของพลังงานสูง
จึงให้ความรู้สึกที่เจ็บน้อยกว่าเทคโนโลยีทั่วไปในท้องตลาด ซึ่ง
Liftherapy ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ไม่เจ็บเลย (pain-free)
แต่เป็นความรู้สึกเจ็บบ้างเพียงเล็กน้อยที่สามารถทนได้