Active Cell Therapy นิยามแห่ง ‘state of the art’ หรือความล้ำสมัยของการทำงานของ Electrotherapy หรือการใช้กระแสไฟฟ้า electric current ที่ร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่ 0.448 MHz โดยทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนไอออน
ที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์ในร่างกาย ทำให้มีการกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมของเซลล์ (Stimulate cellular activity), เพิ่มออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่เซลล์, เพิ่ม ATP หรือพลังงานของเซลล์โดยกระตุ้นการทำงานของไมโทครอนเดรีย นอกจากนี้ยังมีการทำงานแบบ
Thermal เพื่อเพิ่มอุณหภูมิของเซลล์และเนื้อเยื่อ ซึ่งจะเห็นได้ว่า Active Cell Therapy เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน จากผลการรักษา ทั้งการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา (Sport injuries), โรคเรื้อรังจากความเสื่อมถอยของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ (Degenerative
disease), ใช้ในด้านความงามโดยเฉพาะการฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณ รวมถึงยังสามารถนำมาใช้ในการสลายไขมันส่วนเกิน ที่ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูในระดับเซลล์อีกด้วย
เพราะกระแสไฟฟ้า เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ เส้นเลือด เนื้อเยื่อ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าซึ่งส่งผลในระดับชีวโมเลกุล ยกตัวอย่างเช่น ระบบประสาทของมนุษย์ก็เป็นสัญญาณเคมีไฟฟ้า เมื่อเกิดการกระตุ้นเซลล์ประสาทก็เกิดเป็นกระแสประสาท
ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ รวมถึงเนื้อเยื่อที่เกิดแผลจะมีกระแสไฟฟ้าที่ค่อนข้างอ่อน ในกระบวนการของการซ่อมแซมเซลล์เพื่อสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งการศึกษาในเชิงความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งผลต่อชีววิทยาของเซลล์เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานจึงไม่ใช่เรื่องใหม่
และไม่น่าแปลกใจที่ Active Cell Therapy จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการการันตีจากรางวัลในระดับนานาชาติ นับไม่ถ้วน มีงานวิจัยตีพิมพ์กว่า 170 ฉบับ ซึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจโดย Hernández-Bule และคณะ (2014) ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ
การส่งผ่าน 448 kHz ในการกระตุ้นให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อเซลล์ ให้ร่างกายเกิดการฟื้นฟูจากการบาดเจ็บของผู้ป่วย จากความสามารถในการกระตุ้นในระดับเซลล์ และการสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้ร่างกายฟื้นฟูตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลไกการทำงานเน้นไปที่การกระตุ้นที่เฉพาะเจาะจง
จากความถี่ที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุ คลื่นความถี่จะกระตุ้นตัวรับของโปรตีนที่เยื่อหุ้มเซลล์ให้เปิดออกและเกิดการแลกเปลี่ยนประจุ และหว่างภายในและภายนอกเซลล์ เป็นผลให้เกิดเมทาบอลิสม เช่นการลำเลียงออกซิเจน และสารอาหารที่จำเป็นเพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
โดยเป็นการรักษาแบบ non-invasive ที่ไม่เจ็บ
การกระตุ้นโปรตีนบริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ ด้วยความถี่เฉพาะ สร้างปฏิกิริยาโดยตรงต่อนิวเคลียสส่งผลทางด้านชีวภาพ อาทิเช่น เพิ่มระบบไหลเวียน ลดอาการบวมน้ำ และการคลั่งเลือด เพิ่มการขับสารพิษ เกิดการขยายตัวของสเต็มเซลล์รวมถึงการกระตุ้นการทำงานของไฟโบลบลาสต์ซึ่งส่งผลต่อขบวนการ
neocollagenesis หรือขบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่
จะเห็นได้ว่า Unique Active Cell Therapy ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุด้วยคลื่นความถี่เฉพาะตัว (448 kHz) เป็นระบบการรักษาที่ทำให้เกิดการฟื้นฟูถึงระดับเซลล์ จึงให้ผลที่ครอบคลุม ในขบวนการจากความเสื่อมถอยของเนื้อเยื่อ
รวมถึงในระดับเซลล์ เช่น ช่วยบรรเทาอาการปวด ช่วยเร่งการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นการทำงานของน้ำเหลือง ขับของเสียออกจากร่างกาย เพิ่มการเผาผลาญไขมัน และยับยั้งการสร้างเซลล์ไขมัน ขจัดเซลลูไลท์ อีกทั้งยังช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิวหนัง
ไขมันภายในช่องท้องซึ่งกำจัดออกได้ยาก ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในระหว่างการรักษาด้วย Active cell therapy ระบบ electric current 448 kHz ส่งผลหลักๆในการกระตุ้น 3 ด้าน ได้แก่
ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากการสูญเสียคอลลาเจน ดังนั้นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำจะสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในขณะเดียวกันยังช่วยให้ผิวตึงกระชับเรียบเนียนอีกด้วย
Unique Active Cell Therapy ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือแพทย์แบบ (non-invasive) ปล่อยคลื่นวิทยุ 448 kHz monopolar ลงได้ดึงชั้นหนังแท้ (dermis & sub-dermal layer) โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวด้านบน พลังงานที่ถูกส่งมาในระดับที่ลึกจะส่งผลในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
และพลังงานนี้ยังส่งผลให้คอลลาเจนมีความกระชับแน่นดูอ่อนเยาว์ ซึ่งการกระตุ้นผิวหนังบริเวณใบหน้าอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการใช้พลังงาน Unique Active Cell Therapy ส่งผลต่อใบหน้าดังนี้
Before
After
รูปที่ 1 (Pablo et al., 2015) การใช้ RF 0.448 MHz ในคนไข้ที่ทำ fractional CO2 laser แสดงให้เห็นถึงการบวมที่น้อยลงอีกทั้งเพิ่มการใหลเวียนของโลหิต
Before
After
รูปที่ 2 (Pablo Naranjo, n.d.) แสดงผลการรักษาในคนไข้อายุ 63 ปี ก่อน (A) หลังทำ 3 เดือน (B)
Before
After
รูปที่ 3 (Pablo Naranjo, n.d.) แสดงผลการรักษาในคนไข้อายุ 55 ปี ก่อน (A) หลังทำ 3 เดือน (B)
ความรู้สึกระหว่างทำ Active Face Lifting
เนื่องจากเป็นการใช้คลื่นวิทยุ ร่วมกับพลังงานระบบ electric current 448 kHz จะรู้สึกอุ่นๆและผ่อนคลายขนาดทำ โดยใช้ระยะเวลาในการทำทรีทเม้นประมาน 45-60 นาที โดยไม่ต้องมีการใช้ยาชา และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำ
ผลลัพธ์หลังการทำทรีทเม้นท์
คนไข้ส่วนใหญ่สามารถเห็นผลการรักษาได้หลังทำทันทีตั้งแต่ครั้งแรก โดยจะสังเกตได้ว่าผิวหน้ายกกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นแต่อย่างไรก็ตามเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นควรทำอย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อเพิ่มปริมาณการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่มีความแข็งแรงและจัดเรียงตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง
ใครบ้างที่ไม่สามารถทำได้
ถึงแม้เครื่องมือมีความปลอดภัยสูง ได้รับมาตรฐาน USFDA ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทำในหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือมีการฝังเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
ควรทำควบคู่กับหัตถการไหน
เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการฟื้นฟูระกับเซลล์ จึงควรทำควบคู่กับ Active Stemcell PRP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอวัยของปัญหาผิวหน้า นอกจากนี้การทำควบคู่กับ Liftherapy ยังส่งผลในการยกกระชับผิวโดยใช้คนละกลไกในการยกกระชับ คล้ายการทำ Ulthera ควบคู่กับ Thermage ซึ่งผลลัพธ์หลังการทำทรีทเม้นคู่กันเป็นที่ชื่นชอบของคนไข้ผู้มารับบริการอย่างมาก
References
Hernández-Bule, M. L., Paíno, C. L., Trillo, M. Á., & Úbeda, A. (2014). Electric stimulation at 448 kHz promotes proliferation of human mesenchymal stem cells. Cellular Physiology and Biochemistry, 34(5), 1741–1755.