การรักษาหลุมสิว โดยการเรียกเนื้อหลุมสิว พูดง่ายๆคือ การกระตุ้นให้เกิดการสร้างใหม่ของคอลลาเจน ในขบวนการ healing (ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเก่า โดยการสร้างเนื้อเยื่อใหม่) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คุณภาพ หรือความหนาของคอลลาเจน จะเกิดขึ้นได้อย่างดีนั้น ต้องเริ่มต้นที่ขบวนการ healing เริ่มต้นที่ต้องมีคุณภาพ เช่นเดียวกัน
การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว เป็นเพียง 1 ขั้นตอน ของการเสริมขบวนการนี้ ยกตัวอย่างเช่น
การใช้
Fractional 1,064
Picosecond Laser ซึ่งจะช่วยสลายผังผืดที่ดึงรั้งแผลหลุมสิว
(ไม่ใช่หลุมสิวทุกชนิดที่ถูกยึดด้วยผังผืด) ในขณะเดียวกัน ยังกระตุ้นคอลลาเจนใหม่
คุณภาพที่ดีอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีการทำเมโสหลุมสิวควบคู่กันซึ่งสามารถพิจารณาทำร่วมกับ
Cellular Matrix รวมถึงการฉีด Rejuran เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็น
ที่ช่วยให้ขั้นตอนเป็นไปอย่างสมบูรณ์
การทำ Gold Derma Laser ก็เช่นเดียวกัน นอกจากการใช้หัวเข็มทองคำซึ่งเป็น Gold
microneedle ทำการ Stamp ลงสู่ใต้ผิว พลังงานที่ปล่อยโดยรอบ
ยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างยิ่งยวด การทำเมโสหลุมสิว
จึงช่วยให้ขั้นตอนเป็นไปอย่างสมบูรณ์
ได้คอลลาเจนคุณภาพ ในแบบที่เราต้องการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อัตราการสร้างคอลลาเจน
แตกต่างกันในแต่ละบุคคล เพราะเซลล์และคุณภาพผิวไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในการรักษาหลุมสิว
กระชับรูขุมขน ต้องใจเย็น เพื่อให้เซลล์ได้ทำหน้าที่ Cell regeneration
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นผลสูงสุด เฉลี่ยประมาน 6 เดือน
และนอกจากนี้ การรักษาหลุมสิว ไม่ได้จบด้วยเครื่องมือที่ใช้เท่านั้น เทคนิค
ความชำนาญ การกำหนดค่าพลังงาน ระดับความลึกของการปล่อยพลังงาน ความลึกของการทำเมโส การทำ TCA cross
การทำ Subcision ปัจจัยทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับผลที่จะได้รับกลับมา
และที่สำคัญ อาจต้องใจเย็น ในการประเมินผลลัพธ์
คลิกสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ต้องการทราบราคาโปรโมชั่น
จัดการหลุมสิว กระชับรูขุมขน คืนผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี GOLD DERMA LASER (Micro-needle Fractional RF) อันทรงพลัง ที่ BAC Clinic
GOLD DERMA LASER นวัตกรรม Advanced Fractional Laser
ที่ทำงานร่วมกับคลื่นวิทยุ (Micro-needle Fractional RF) อันทรงประสิทธิภาพในการ
รักษาหลุมสิว, กระชับรูขุมขน, ยกกระชับผิว, ช่วยให้ผิวแน่นละเอียดอ่อนเยาว์,
โดยการส่งผ่านพลังงานของคลื่นพลังงานวิทยุที่เหมาะสมและแม่นยำ (fractional radio frequency energy)
ผ่าน Gold Plate Microneedles ซึ่งสามารถปรับระดับความลึก
0.5 – 3.5 mm จึงสามารถออกแบบการรักษาในการแก้ปัญหาหลุมสิวที่อยู่ลึก
ได้โดยการส่งพลังงานผ่านหัวเข็ม Gold Plate Microneedles ลงสู่ผิวชั้นหนังแท้ เกิดขบวนการ Ablasion
และ Coagulation ส่งผลในการกระตุ้นคอลลาเจน ไฟโบรบลาสต์ เกิด Cell
regeneration หรือการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างรวดเร็ว และเกิดการเรียงตัวใหม่ (Dermal remodelling)
ของคอลลาเจนที่เรียงตัวผิดปกติในชั้นผิวหนังแท้โดยไม่กระทบผิวหนังชั้นบน แก้ปัญหาผิวที่แก้ไขได้ยาก
สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เพียง 1 ครั้ง
หลังการรักษาเพียง 1 สัปห์ดา และเห็นการเปลี่ยนแปลงสูงสุดภายใน 3 เดือนและ เกิด Cell regeneration
หรือการสร้างคอลลาเจนต่อเนื่องจนถึง 6 เดือนในหลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่ครั้งแรก
สัมผัสผลลัพธ์จากผิวที่เรียบเนียนและยกกระชับขึ้น โดยมี
Downtime ที่ต่ำมากหรือ No downtime ผิวหนังฟื้นฟูสภาพโดยเกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุด
ซึ่งจะแตกต่างจากการส่งพลังโดยเลเซอร์ ซึ่งส่งผลต่อผิวหนังชั้นบน หรือ epidermis
อาจเกิดผิวที่เข้มขึ้น (PIH) เกิดแผลตกสะเก็ด พักฟื้นนาน
และไม่สามารถแก้ปัญหาหลุมสิวที่อยู่ลึกได้เต็มประสิทธิภาพ
โดย Gold Derma Laser มี 2 mode หลักในการรักษา คือ Gold matrix
ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวในรูปแบบ Sublative rejuvenation และ Gold Plate Microneedles
ทำงานในรูปแบบ Minimally invasive rejuvenation มีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิวที่อยู่ลึก
กระชับรูขุมขน ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ สามารถแก้ปัญหาบริเวณผิวหน้าและผิวกาย
ซึ่งสามารถทำควบคู่กับ Picosecond
Laser โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ร่วมด้วย
เพื่อให้เห็นผลได้ไวและประทับใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้ง Gold Derma Laser และ Picosecond Laser
ต่างมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน
ซึ่งทั้งสองเลเซอร์ไม่ใช่เลเซอร์ที่ใช้หลักการลอกผิวด้วยความร้อนจึงไม่ทำให้ผิวบาง
แต่ในขณะเดียวกัน ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวมีเส้นไยที่หนา เผยผิวที่มีสุขภาพดี
อีกทั้งเป็นการชูจุดเด่นทั้งในด้านการรักษาหลุมสิว รักษาจุดด่างดำ
และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ข้อดีของ GOLD DERMA LASER ซึ่งเป็นเลเซอร์ในระบบ Micro-needle Fractional RF ที่แตกต่างจากเลเซอร์ระบบ Laser Skin Resurfacing หรือ ablative laser ชนิดอื่น
ข้อดีของ Micro-needle Fractional RF คือสามารถให้ผลการรักษาที่เทียบเท่ากับ skin vesutacing laser
(กลุ่ม CO2 Lasers เช่น eCO2, SmartXide, Fraxel) แต่การพักฟื้นต่ำกว่า และความเสี่ยงในการเกิด
รอยดำจากการอักเสบของผิว หรือ PIH (Post Inflamatory Hyperpigmentation)
น้อยกว่า อีกทั้งสามารถใช้รักษาในผู้ที่มีสีผิวเข้มได้
โดย CO2 Lasers เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่มีมานานในการรักษาหลุมสิว
ซึ่งจัดได้ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี หลักการทำงานคือการใช้เลเซอร์ยิงเจาะเปิดผิว
ให้เกิดการซ่อมแซมตัวเองของผิวหนังโดยการสร้างคอลลาเจน
ดันหลุมสิวให้ตื้นขึ้น แต่เนื่องจากเป็นการเจาะผิวจากด้านบนด้วยเลเซอร์ จึงทำให้ผิวเป็นสะเก็ด
เป็นตาราง และลงไปได้ไม่ลึก นอกจากนี้ การเจาะเปิดผิวชั้นบน อาจทำให้เกิดผิวไวต่อแสงแดด
และมีโอกาสเกิดรอยดำ จากการอักเสบของผิว หรือ PIH (Post
Inflamatory Hyperpigmentation) ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะหากตั้งค่าพลังงานไม่เหมาะสม
อาจทำให้ผิวเกิดเบิร์นไหม้ ยากต่อการรักษา หรือกลายเป็นฝ้าตามมาในภายหลัง
Fraxel ใช้หลักการทำงาน Fractional CO2
โดยเลเซอร์จะถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ละเอียดขึ้น Fraxel ความยาวคลื่น 1, 550 nm จะเหมาะกับหลุมสิว
และ 1,927 nm จะเหมาะกับเม็ดสี โดยผลข้างเคียงเช่น หน้าแดง และสะเก็ดจะน้อยกว่า
Co2 Laser แต่ว่าการเกิด PIH จากการทำลายผิวชั้นบน ก็ยังคงพบได้เนื่องจากมีหลักการเดียวกัน
คือเจาะเปิดผิวชั้นบนลงมาด้วยเลเซอร์ ในขณะที่ประสิทธิภาพได้ผลน้อยกว่าตัว CO2 Laser โดยการทำ
Fraxel 4 ครั้ง ให้ผลใกล้เคียงการทำ fractional CO2
1 ครั้ง
E matrix ใช้หลักการทำงาน
โดยจะส่งผ่านพลังงานลงไปผ่านหัวทิปซึ่งมีลักษณะคล้ายปิระมิดใต้ผิว ทำให้การส่งพลังงานดีกว่า CO2
Laser และ Fraxel ที่เมื่อผ่านชั้นผิวไป พลังงานจะค่อยๆลดลง
แต่ด้วยลักษณะการส่งพลังงานจึงทำให้เกิดความร้อนสะสมในผิวชั้นตื้นมีโอกาสเกิดหน้าแดง
บวม และ แสบร้อนได้มาก อีกทั้งเกิดสะเก็ดชัดที่สุดเมื่อเทียบกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวทั้งหมด
ดังนั้นก็ต้องเตรียมวันพักหน้าให้ดีก่อนเข้ารับการรักษา
Fractional Microneedle RF หรือ Gold Derma Laser
เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาหลุมสิว ซึ่งใช้การส่งผ่านพลังงานผ่านหัวเลเซอร์ Micro-needle
โดยปล่อยพลังงาน Fractional RF ที่ผิวชั้นลึก โดยไม่กระทบผิวชั้นบน ซึ่งสามารถลงได้ลึกถึง
3.5 mm
ซึ่งเป็นความลึกที่ลึกกว่าเลเซอร์รักษาหลุมสิวชนิดอื่นๆจึงเห็นผลได้ชัดเจนโดยเฉพาะในเคสที่เป็นหลุมสิวลึก
ส่วนผลข้างเคียงพบได้เล็กบ้างโดยอาจจะพบอาการบวมแดง ได้เล็กน้อย แต่มักจะหายไปเองภายใน 24
ชั่วโมงเท่านั้น และการเกิดสะเก็ดน้อยจนแทบไม่เห็น
เพียงเอามือลูบอาจจะรู้สึกสากๆประมาณ 1-3 วันเท่านั้น และ เนื่องจากมีการทำลายผิวชั้นบนที่น้อยมาก
โอกาสการเกิด PIH หรือ รอยดำหลังทำนั้น จึงน้อยที่สุด และสามารถทำได้ในทุก skin type และทุกสีผิว
จะเห็นได้ว่าจากหลักการทำงานของMicro-needle Fractional RF
จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวชั้นลึกโดยไม่กระทบ ต่อผิวหนังชั้นบน
จึงทำให้สามารถรักษาหลุมสิวที่อยู่ลึก และลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงและต้องพักฟื้นนาน
GOLD DERMA LASER เหมาะกับใครบ้าง ?
ข้อดีของการทำ GOLD DERMA LASER
ขั้นตอนการรักษา
ผลการรักษารอยแผลเป็นหลุมสิว (Acne
scars)
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างในแต่ละบุคคล
ผลการรักษารอยแผลเป็น (Trauma
scars)
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างในแต่ละบุคคล
ผลการรักษารอยแผลเป็น(Trauma
scars)
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างในแต่ละบุคคล
ผลการรักษารอยแดง (Post-inflammatory
erythema)
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างในแต่ละบุคคล
ข้อควรปฏิบัติหลังเข้ารับการรักษา
ความแตกต่างของรอยแดงรอยดำจากสิว และ รอยแผลเป็นจากสิว ?
รอยแดงรอยดำจากสิว สามารถหายได้เอง เกิดเพียงชั่วคราว ในขณะที่ รอยแผลเป็นจากสิว ไม่สามารถหายเองได้ และส่งผลต่อเนื่อง โดยรอยด่างดำหลังสิวหายหรือ Post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) ซึ่งสามารถเกิดเป็นรอยดำหรือรอยแดง (Post-inflammatory erythema) สามารถหายได้เองภายใน 4-8 เดือน ในขณะที่รอยแผลเป็นจากสิว หรือแผลเป็นหลุมสิวไม่สามารถหายเองได้ และให้ผลต่อเนื่อง
รอยแผลเป็นหลุมสิวเกิดจากอะไร?
รอยแผลเป็นหลุมสิว มักเป็นผลมาจากสิวชนิดตุ่มนูนแดง (papule) สิวหัวหนอง(Pastule) และ สิวหัวช้าง (cystic acne)เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบรุนแรงจากสิว และเป็นโพรงหนองภายในจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวบริเวณนั้นถูกทำลาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดสิวชนิดที่รุนแรงที่สุดคือ สิวหัวช้าง (cystic acne) ซึ่งเป็นสิวที่อยู่ลึกใต้ผิวหนังอีกทั้งยังมีการอักเสบ โดยสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียลึกลงไปใต้ผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดเป็นกระเปาะของไขมันที่มีการติดเชื้อ มีลักษณะนูนแดง ขนาดใหญ่ เป็นไตแข็งๆ เต็มไปด้วยหนองภายใน โดยเฉพาะหากไปบีบก็จะทำให้เกิดผลที่รุนแรงที่สุดของสิว และเมื่อเกิดบาดแผลจากการอักเสบหรือการบีบสิว จะทำให้เกิดขบวนการสมานแผลตามกลไกธรรมชาติ โดยจะสร้างผังผืดขึ้นมา ซึ่งผังผืดจะดึงผิวให้ยุบตัวลง และเนื่องจากผิวหนังบริเวณนั้นไม่สามารถซ่อมแซมตนเอง โดยการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนให้เหมือนเคยได้ ผิวจึงไม่ได้รับการเติมเต็ม จึงทำให้เกิดผลที่รุนแรงที่สุด คือ “รอยแผลเป็น”
ภาพที่ 1 แสดงการเกิด รอยแผลเป็นจากสิว
โดยระดับความรุนแรงของรอยแผลเป็นจากสิว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวด้วยเช่นกัน โดยรอยแผลเป็นสิวมีหลายประเภท โดยแผลเป็นชนิดหลุม หรือรอยหลุมสิว (Atrophic scar) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของแผลเป็นหลุมสิว เนื่องจากวิธีการรักษา จำนวนครั้ง และเครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน
โดยทั่วไปจะแตกต่างในแต่ละบุคคลตามชนิดและระดับความรุนแรงและเพื่อผลที่น่าประทับใจควรรักษาแบบผสมผสาน
TCA CROSS (TCA Chemical Reconstruction of Skin Scars)
ภาพที่ 2 แสดงผลของ TCA CROSS ต่อผิวหนัง
ข้อดีของ TCA CROSS คือ
ภาพที่ 3 แสดง Ice pick scars ตอบสนองได้ดีต่อการรักษาด้วย TCA CROSS
ภาพที่ 4 แสดงการทำ Subcision
โดยข้อดีของการเติมฟิลเลอร์บริเวณหลุมสิวคือไม่ใช่เป็นการเติมเต็มเพียงชั่วคราว หรือเพียงฉาบผิวเพียงเท่านั้นแต่ผลของฟิลเลอร์ยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากฐานหลุมสิวแต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แตกต่างจากการใช้ Rejuran ซึ่งเป็น PN ตัวท๊อปในการรักษาหลุมสิว จึงช่วยเติมเต็มหลุมสิวฟื้นฟูซ่อมแซม และสร้างคอลลาเจนใหม่ไปพร้อมกัน อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งการสร้างคอลลาเจนโดยเซลล์ผิวเองไม่ใช่การใช้สารเติมเต็มเติมเข้าไปชั่วคราวจึงเรียกได้ว่าให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
โปรโมชั่นลดสูงสุดสำหรับลูกค้า VVIP ภายใน 25 พ.ย. 67 ต้องการรักษารูขุมขนกว้าง หลุมสิว โดยคลินิกที่เชี่ยวชาญ
จองสิทธิ์ได้ทางช่อง ทางไลน์ @bacclinic (คลิก)
หลุมสิว รูขุมขนกว้างรักษาได้ด้วยเทคนิค Acne Scar Revision ที่ BAC Clinic ที่เดียวเท่านั้น
Q: วิธีการใดคือวิธีการรักษาแผลเป็นหลุมสิวที่ดีที่สุด?
A: วิธีการรักษาที่ดีที่สุด คือการรักษาที่ตรง
หรือ matching กับชนิดของแผลเป็นและ skin type ของแต่ละบุคคล ดังนั้นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคล
จึงไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
Q: การรักษาหลุมสิวด้วย Pico BB Smooth
ดีกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นอย่างไร?
A: จุดแข็งของ Picosecond Laser คือ ใช้ได้กับหลุมสิวทุกชนิด เนื่องจากเลเซอร์ลงได้ถึงผิวชั้น
Dermis ไม่เจ็บหรือเบิร์น เนื่องจากไม่ใช้อุณหภูมิเหมือนเลเซอร์ระบบดั้งเดิม และ Downtime สั้น
จึงไม่ต้องพักหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ หลังการรักษาหน้าจะแดงเพียงเล็กน้อย
และเป็นปกติในวันถัดไป นอกจากนี้ Picosecond Laser ยังเป็นเลเซอร์นวัตกรรมขั้นสูงสุด
ที่จำเพาะต่อเม็ดสีผิดปกติ จึงช่วยให้หน้าใส ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยแดงได้อย่างดีอีกด้วย
Q: การรักษาหลุมสิวด้วย Gold Derma Laser ดีกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นอย่างไร?
A:จุดแข็งของ Gold Derma Laser คือ ใช้ได้กับทุก Skin Type ทุกสีผิว ผลการรักษาดีกว่า ปลอดภัยกว่า
เลเซอร์ในระบบดั้งเดิม และยังเป็น Skin rejuvenation
ช่วยใฟ้ผิวอิ่มฟูดูอ่อนเยาว์ ส่วนข้อด้อยคืออาจจะรู้สึกเจ็บในระหว่างการรักษา และไม่เหมาะกับ Ice pick scar
Q: แผลเป็นหลุมสิวแบ่งเป็นกี่ชนิด
A: เบื่องต้นแบ่งเป็น 3 ชนิดหากไม่นับรวมกลุ่ม
คีลอยด์ ซึ่งได้แก่
Ice Pick Scar ซึ่งรักษายากที่สุด
Boxcar Scar หลุมกว้าง ไม่ลึกมาก ขอบเขตชัด รักษายากปานกลาง
Rolling Scar หลุมสิวตื้นที่สุด รักษาง่ายที่สุด
ซึ่ง Micro-needle Fractional RF (Gold Derma Laser ) เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย
ทดแทนการใช้เลเซอร์กลุ่ม Skin Resurfacing ในการรักษาหลุมสิวแม้หลุมสิวลึก
คืนผิวแน่นกระชับเรียบเนียนแม้ในผู้ที่มีสีผิวเข้ม และมีความเสี่ยงต่อการเกิด PIH ได้
แต่ในแง่ของหลุมจิก หรือ Icepick Scar รวมถึง downtime นั้น Picosecond Laser ยังมีข้อได้เปรียบอยู่มาก
เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่ลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น Dermis และมีความถี่สูง
ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความถี่ของหัวเข็ม และไม่เกิดความร้อนเหมือนเลเซอร์ระบบดั้งเดิม
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการผิวใส หรือมีปัญหาฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ และต้องการรักษาโดยไม่เจ็บ ไม่ต้องพักหน้า
downtime สั้นที่สุด Picosecond Laser คือคำตอบ
นอกจากนี้ที่ บีเอซี คลินิก ยังมีการทำเมโสหลุมสิวกระชับรูขุมขนควบคู่ไปด้วย
ซึ่งมีส่วนผสมหลักของสารกลุ่มนิวคลีโอไทด์ จึงมีประสิทธิภาพสูงในการต้านการอักเสบ กลไกสำคัญของการ healing
สร้างผิวใหม่ จึงสามารถฟื้นฟูผิวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ
ผิวหนังที่ผ่านการทำเลเซอร์ จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างถาวร